Saturday, August 15, 2015

วัฒนา เมืองสุข แฉหลักฐานกล้องวงจรปิด ยืนยัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยทหาร ของ คสช.

ข้อมูลที่ คสช.ต้องการ ตามที่พ.อ.วินธัยสุวารี โฆษก คสช.แถลงตอบกรณีผมถูกทหารคุกคามว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างให้เกียรติ เป็นลักษณะการเข้าไปประสานงานพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็น′ แต่ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดแล้วช่วยตอบและยืนยันให้ประชาชนทราบอีกครั้งว่า

1.การ ใส่ชุดพรางบุกเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกำลังอาวุธครบมือเพื่อถ่ายรูปทำแผนที่ สถานที่อยู่อาศัยโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของบ้านคือการปฏิบัติแบบให้เกียรติของ คสช

2.ส่วนการไปครั้งที่สองในชุดนอกเครื่องแบบเพื่อถามข้อมูลการเดินทางเข้าออกหมู่บ้านของผมก็คือการประสานงานและแลกเปลี่ยนความเห็นของคสช

3.วิธีการประสานงานพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของ คสช.คือการไปพูดคุยขอข้อมูลจาก รปภ แต่ไม่เคยคุยหรือแจ้งให้ผมซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลทราบ

4. ข้อมูลและความเห็นที่ คสช.ต้องการทราบคือความเคลื่อนไหวของผมเกี่ยวกับเวลาเข้าออกบ้าน

5. ผมเห็นว่าข้อมูลทั้งหมดที่ คสช ต้องการและวิธีการให้ได้มาซึ่งข้อมูลคล้ายกับที่พวกมิจฉาชีพทำและใช้ในการทำงาน นี่คือข้อมูลที่ คสช ต้องการโดยการประสานงานพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างให้เกียรติหรือครับ

วัฒนา เมืองสุข แฉหลักฐานกล้องวงจรปิด ยืนยัน การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยทหาร ของ คสช.

ข้อมูลที่ คสช.ต้องการ ตามที่พ.อ.วินธัยสุวารี โฆษก คสช.แถลงตอบกรณีผมถูกทหารคุกคามว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างให้เกียรติ เป็นลักษณะการเข้าไปประสานงานพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็น′ แต่ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดแล้วช่วยตอบและยืนยันให้ประชาชนทราบอีกครั้งว่า

1.การ ใส่ชุดพรางบุกเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกำลังอาวุธครบมือเพื่อถ่ายรูปทำแผนที่ สถานที่อยู่อาศัยโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของบ้านคือการปฏิบัติแบบให้เกียรติของ คสช

2.ส่วนการไปครั้งที่สองในชุดนอกเครื่องแบบเพื่อถามข้อมูลการเดินทางเข้าออกหมู่บ้านของผมก็คือการประสานงานและแลกเปลี่ยนความเห็นของคสช

3.วิธีการประสานงานพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของ คสช.คือการไปพูดคุยขอข้อมูลจาก รปภ แต่ไม่เคยคุยหรือแจ้งให้ผมซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลทราบ

4. ข้อมูลและความเห็นที่ คสช.ต้องการทราบคือความเคลื่อนไหวของผมเกี่ยวกับเวลาเข้าออกบ้าน

5. ผมเห็นว่าข้อมูลทั้งหมดที่ คสช ต้องการและวิธีการให้ได้มาซึ่งข้อมูลคล้ายกับที่พวกมิจฉาชีพทำและใช้ในการทำงาน นี่คือข้อมูลที่ คสช ต้องการโดยการประสานงานพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างให้เกียรติหรือครับ

สะพัด! คลิป"ทักษิณ"ปลุกคนไทยต้านร่างรธน. เปรียบบ้านเมือง เหมือนช่วงล้างเผ่าพันธุ์

สะพัด! คลิป"ทักษิณ"ปลุกคนไทยต้านร่างรธน. เปรียบบ้านเมือง เหมือนช่วงล้างเผ่าพันธุ์

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20:04:14 น.

Credithttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439643911





แพร่คลิปวีดีโอ"ทักษิณ"พบปลุกแนวร่วมไม่ เอาร่างรธน.ที่ไม่รักประชาธิปไตยเมินโดนถอดยศชี้สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ เลวร้ายสุดตั้งแต่มีประเทศไทย


เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอบันทึกภาพการกล่าวปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ หัวข้อ "คลิปล่าสุดอดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร พูดที่ประเทศฟินแลนด์" เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในงานร่วมรับประทานอาหารกับคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อาศัยในทวีปยุโรป ว่า ถ้าถามว่าวันนี้บ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ผมถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา ทั้งที่จริงบ้านเมืองเราพัฒนาไปมากแล้ว แต่ 10 กว่าปีมานี้ถือว่าถอยหลัง ขณะเดียวกันอาจเห็นว่าบ้านเมืองมีความปรองดอง แต่ความจริงยังไม่ใช่ เหมือนเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าละอาย แต่คนไทยวันนี้ได้ลิ้มรสประชาธิปไตยมามากแล้ว ได้เห็นความยุติธรรมมามากแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คนไทยก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น และใครทำอะไร

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ส่วนเศรษฐกิจในวันนี้ เราก็รู้กันแล้วว่าผู้มีอำนาจไม่ได้สนใจใดๆ สนใจแต่เรื่องเล็กๆ การแก้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนค้าขาย เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานค่อนข้างถูกละเลย  อีกทั้งเศรษฐกิจขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง รวมถึงความเชื่อมั่นและความเชื่อถือต่อประเทศไทยเกิดความเสียหายอย่างมาก เพราะผู้มีอำนาจเอาประเทศเราไปเล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีใครคิดถึงอนาคตของประเทศ คิดกันถึงแต่อดีต นำประเทศกลับสู่อดีต

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ประเทศของเราตอนนี้ได้ย้อนยุคไปแล้ว ตนจึงอยากเห็นบ้านเมืองของเรากลับไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง แต่ดูท่าทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะออกมาถือว่าเลวร้ายที่สุดแล้ว เป็นรัฐธรรมนูญที่คนไทยไม่ยอมรับ ไม่ทำให้ประเทศดีขึ้น จึงอยากบอกให้พี่น้องว่าพวกเราทั้งหลายต้องยึดมั่นหลักการรักประชาธิปไตย รักประเทศไทย และรักความเสมอภาค แต่ถ้าอะไรที่ไม่เข้าตามหลักการเหล่านี้ เราต้องไม่เอา และตนเชื่อว่าไม่มีใครฝืนประชาชนได้ และไม่มีประเทศใดในโลกที่ฝืนจิตใจคนส่วนใหญ่ได้เลย ดังนั้นถ้าทุกคนเข้มแข็ง ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ประเทศเรากลับมาเป็นประชาธิปไตยได้เช่นเดิม วันนี้เขาจะมาถอดยศ ถอดกางเกง ถอดอะไรไปหมด ตนก็ไม่ว่าอะไร ตามสบาย

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าคลิปดังกล่าวถูกบันทึกขึ้นที่ไหน และช่วงเวลาใดก่อนนำมาเผยเเพร่

สะพัด! คลิป"ทักษิณ"ปลุกคนไทยต้านร่างรธน. เปรียบบ้านเมือง เหมือนช่วงล้างเผ่าพันธุ์

สะพัด! คลิป"ทักษิณ"ปลุกคนไทยต้านร่างรธน. เปรียบบ้านเมือง เหมือนช่วงล้างเผ่าพันธุ์

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20:04:14 น.

Credithttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1439643911





แพร่คลิปวีดีโอ"ทักษิณ"พบปลุกแนวร่วมไม่ เอาร่างรธน.ที่ไม่รักประชาธิปไตยเมินโดนถอดยศชี้สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ เลวร้ายสุดตั้งแต่มีประเทศไทย


เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอบันทึกภาพการกล่าวปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านเว็บไซต์ยูทูบ หัวข้อ "คลิปล่าสุดอดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร พูดที่ประเทศฟินแลนด์" เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในงานร่วมรับประทานอาหารกับคนไทยกลุ่มหนึ่งที่อาศัยในทวีปยุโรป ว่า ถ้าถามว่าวันนี้บ้านเมืองเราเป็นอย่างไร ผมถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา ทั้งที่จริงบ้านเมืองเราพัฒนาไปมากแล้ว แต่ 10 กว่าปีมานี้ถือว่าถอยหลัง ขณะเดียวกันอาจเห็นว่าบ้านเมืองมีความปรองดอง แต่ความจริงยังไม่ใช่ เหมือนเป็นการล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าละอาย แต่คนไทยวันนี้ได้ลิ้มรสประชาธิปไตยมามากแล้ว ได้เห็นความยุติธรรมมามากแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คนไทยก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น และใครทำอะไร

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ส่วนเศรษฐกิจในวันนี้ เราก็รู้กันแล้วว่าผู้มีอำนาจไม่ได้สนใจใดๆ สนใจแต่เรื่องเล็กๆ การแก้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนค้าขาย เกษตรกร และผู้ใช้แรงงานค่อนข้างถูกละเลย  อีกทั้งเศรษฐกิจขณะนี้มีความน่าเป็นห่วง รวมถึงความเชื่อมั่นและความเชื่อถือต่อประเทศไทยเกิดความเสียหายอย่างมาก เพราะผู้มีอำนาจเอาประเทศเราไปเล่นอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีใครคิดถึงอนาคตของประเทศ คิดกันถึงแต่อดีต นำประเทศกลับสู่อดีต

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ประเทศของเราตอนนี้ได้ย้อนยุคไปแล้ว ตนจึงอยากเห็นบ้านเมืองของเรากลับไปสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง แต่ดูท่าทางร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่จะออกมาถือว่าเลวร้ายที่สุดแล้ว เป็นรัฐธรรมนูญที่คนไทยไม่ยอมรับ ไม่ทำให้ประเทศดีขึ้น จึงอยากบอกให้พี่น้องว่าพวกเราทั้งหลายต้องยึดมั่นหลักการรักประชาธิปไตย รักประเทศไทย และรักความเสมอภาค แต่ถ้าอะไรที่ไม่เข้าตามหลักการเหล่านี้ เราต้องไม่เอา และตนเชื่อว่าไม่มีใครฝืนประชาชนได้ และไม่มีประเทศใดในโลกที่ฝืนจิตใจคนส่วนใหญ่ได้เลย ดังนั้นถ้าทุกคนเข้มแข็ง ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ประเทศเรากลับมาเป็นประชาธิปไตยได้เช่นเดิม วันนี้เขาจะมาถอดยศ ถอดกางเกง ถอดอะไรไปหมด ตนก็ไม่ว่าอะไร ตามสบาย

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าคลิปดังกล่าวถูกบันทึกขึ้นที่ไหน และช่วงเวลาใดก่อนนำมาเผยเเพร่

สิ่งที่ผู้กุมอำนาจในระบอบเผด็จการทรราชย์ราชาธิปไตยต้องการ

สิ่งที่ผู้กุมอำนาจในระบอบเผด็จการทรราชย์ราชาธิปไตยต้องการ

สงครามชนชั้นในประเทศไทยแห่งยุคศตวรรษที่ 21 อันได้เริ่มขึ้นในช่วงปลายของการบริหารประเทศชองรัฐบาลที่ประชาชนรักที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ภายใต้การบริหารงานของ ดร. ทักษิณ ชินวัตร นั้น ทำท่าว่าจะยืดยาวกว่าที่ใครหลายคนคิด

ฝ่ายปล้นอำนาจประชาชน รวมตัวกันเพราะผลประโยชน์ หรือความมั่นคงในอำนาจถูกบั่นทอนโดยการเติบโตของการเมืองที่ประชาชนคนรากหญ้าหนุนหลัง การปล้นอำนาจเกิดขึ้นด้วยการวางแผนเป็นขั้นตอน ใช้สื่อที่เสียผลประโยชน์และถูกสั่งได้ คนที่มีชือเสียงที่วังไว้ใจและจงรักภักดีต่อวัง ผ่านเส้นสายขององคมนตรีทั้งคณะ นักการเมืองไร้ฝีมือที่รับใช้อำนาจโบราณเป็นสันดาน ทหารในกำกับของวัง ข้าราชการที่ถูกสร้างให้รับใช้เป็นตีนมือให้กิจของพระราชาตามชื่อ และคนไทยที่หัวอ่อน ถูกล้างสมองมาโดยวัฒนธรรมและระบบการโฆษณาชวนเชื่อนานนับชั่วอายุคน

ฝ่ายประชาชนนั้นเล่า นับแต่ปี 35 เริ่มมีชนชั้นกลางลุกขึ้นมาต่อต้านลัทธิทรราชย์ทหาร ที่พยายามกลับมาเกิด ด้วยการสั่นสะเทือนอำนาจโบราณยังไม่ชัดเจน ความสงบจึงกลับมา พร้อมกับการยอมให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ฉบับแรก ปี 40 ซึ่งนำมาสู่การมั่นคงแข็งแรงของอำนาจทางการเมือง คืออำนาจบริหารและนิติบัญญัติ ที่สามารถมีพลังคัดง้างกับอำนาจเก่าได้ สามารถสร้างความสุขและความหวังให้กับประชาชนระดับล่างที่ถูกสอนให้งมงาย กับค่านิยมพอเพียงของกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในบรรดาราชวงศ์ของโลก

การต่อสู้ที่ผ่านมา ก๊กเทพอสุรทรราชย์ สามารถครองเมืองได้ตามแผนอย่างง่ายดายในระยะแรก เพราะคนไทยยังมึนงง และยังไม่เข้าใจว่าก๊กนี้มีแผนลึกซึ้งขนาดไหน และเป็นอันตรายกับบ้านเมืองขนาดไหน แต่การต่อต้านการรัฐประหารเกิดขึ้นแทบจะทันทีทันใด โดยคนไทยหัวก้าวหน้าจำนวนไม่น้อยที่ไม่หลงกลของก๊กอุบาทว์นี้ การต่อสุ้เคลื่อนไหวต้าน คมช. จึงเกิดขึ้นและขยายลามจนเกิดกระแส ให้พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อไทยในปัจจุบันนี้ เริ่มกล้าต่อสู้ แม้จะสู้ไปตอแหลรับผลการตัดสินของศาลเหี้ยมาตลอด และรับบทพจมาน แห่งบ้านทรายทอง ช่วงกลางเรื่องอย่างอดทน ยอมให้ถูกตบตีออกหน้าจอ จนคนดูละครเห็นภาพชัดเจนถึงความเลวร้ายของไอ้และอีในก๊กเทพอสูร และแน่นอนว่า พอก๊กอสูรยึดอำนาจคืนได้ หลังจากหลงพลาดปล่อยให้เสียคืนกลับไปเพื่อไทยภายใต้การกุมบังเหียนของอดีตนายกหัวใจสีน้ำเงินผุ้รักความยุติธรรม ท่านสมัคร สุนทรเวช พวกมันจึงคิดได้ว่า นับแต่นั้นตลอดมาแจะต้องหน้าด้าน จะต้องรีบรวบอำนาจทุกด้าน ต้องประสานงานกันเข้มแข็ง ใส่ร้ายฝ่ายประชาชนและพรรคของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่กลัวว่าจะค้านสายตาคนไทยหรือต่างประเทศเพียงใด และเมื่อการยุบพรรค การกลั่นแกล้ง และการอ้างพระราชบารมี ไม่ช่วยให้ชนชั้นกรรมกรและชนชั้นล่างหงอได้ แถมยังเติบโตแล้วดึงคนชั้นกลางจำนวนมากเข้าร่วมขบวนการที่พัฒนาเป็นคนเสื้อแดงที่นับวันยิ่งแกร่งกล้า บังอาจสำแดงพลังอย่างน่าหวั่นไหวสำหรับอำนาจเก่า เขาจึงเล่นบทชัดเจนขึ้น โดยประกาศว่า ฉันอยู่ข้างเสื้อเหลืองนะยะ แดงจะตายไปก็ตายไปแบบไพร่ ฉันไม่สนย่ะ นั่นยังไม่พอใจพวกเขา ปีถัดมาเลยกะฆ่าแบบเย้ยหยัน ว่าอย่ามายุ่งกับม้านั่งและอำนาจของกู ยิงธรรมดาไม่ยิง เล่นเอาสไนเปอร์มายิงแบบยิงหมา เพื่อข่มให้คนเสื้อแดงรู้ว่า อย่าบังอาจ

แต่เสื้อแดงมาไกลเกินกว่าจะถอยกลับ และความเลวร้ายของก๊กเทพอสูร ก็มากเกินจะยอมรับได้ ยิ่งดูตัวเลขทางเศรษฐกิจ ดูพัฒนาการทุก ๆ ด้านของการพัฒนาประเทศที่ดิ่งลงเหว ที่ขัดกับภาพการกระแดะและหน้าด้านของรัฐบาลประชาวิบัติที่จีบปากจีบคอพ่นคำเท็จออกหน้าทีวีทุกวัน ประชาชนยิ่งตาสว่าง และเกลียดชังก๊กกินเมืองทั้งก๊ก และดูเหมือนว่าการสมานฉันท์มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไม่มีใครเชื่อสันดานและเล่ห์กลของเทพอสูรและสมุนที่ทำผิดกฎหมายและศีลธรรมกันแบบโจ๋งครึ่ม และกลัวผลกรรมตามทัน หากทิ้งอำนาจ

สงครามนี้ยืดเยื้อด้วยเหตุผลหลักสองสามประการ
หนึ่ง คนกุมอำนาจ มีสันดานหนา ไม่มีทางยอม

สอง คนเสื้อแดง ตามหลังแกนนำที่เน้นแนวรบรัฐสภาอย่างเดียวมานาน จนไม่ได้พัฒนาศักยภาพในการคิด ทำ และประสานงานเคลื่อนไหวเชิงก้าวหน้าที่นำไปสู่ขั้นตอนแห่งชัยชนะเบ็ดเสร็จได้

สาม ผลจากสองข้อที่กล่าวมา ฝ่ายเทพอสูรหาทางชะลอเวลา ลดกระแสฝ่ายเสื้อแดงด้วยวิธีการและหมากกลทุกทางที่ทำได้ ในรัฐสภาให้พรรควิบัติตอแหลและแดกร่วมกับซาตานปากห้อยแห่งแดนอีสาน แนวรบสื่อก็ให้ใช้สื่อของรัฐทุกสื่อทำหน้าที่เอนเอียงอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าสื่อสามานย์อย่างสนธิและคณะจะแตกคอเพราะไม่ได้ผลประโยชน์สมใจ จะปีนเกลียวกัน แต่เรื่องข้อมูลข่าวสารด้านเดียว พวกมันทำได้ไม่แพ้กลุ่มเสื้อแดงที่เติบโตอย่างเป็นระบบเช่นกัน ผ่านนักรบไซเบอร์ที่เข้มแข็ง ประสานกับนักเคลื่อนไหวทุกระดับ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้กำลังใจกันอย่างไม่ขาดสาย

จนวันนี้ กระแสปฎิวัติประชาชน ที่ก่อตัวกันมาอย่างมีที่มาที่ไป คือที่ใดมีการกดขี่และความไม่เป็นธรรม ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน และการต่อต้านมันพัฒนามาอย่างมีเหตุผล และในที่สุด หัวหอกก็ทิ่มไปที่บัลลังก์และบ้านหลังใหญ่ของเทพอสูรและอสุรี และลูกหลาน เมื่อสงครามมันถึงจุดที่สองตัวการใหญ่เจอกัน ตอนต่อไปนี้ จงอย่ากระพริบตา

ทีนี้มาดูว่า ผุ้กุมอำนาจในระบอบนี้ ต้องการอะไร?

พวกนี้ไม่ต้องการสร้างอะไรดี ๆ ผมจึงจะไม่ใช้คำว่าสร้าง แต่จะใช้คำว่าทำลาย ให้พี่น้องเอาไปคิดต่อนะครับ

พวกนี้ต้องการทำลายสิ่งเหล่านี้ครับ

  • ทำลายแกนนำคนสำคัญ
  • ทำลายความสามัคคีของคนเสื้อแดง
  • ทำลายการขยายตัวของคนเสื้อแดง
  • ทำลายเป้าหมายสำคัญให้คลาดเคลื่อนำจากตัวการสำคัญ ๆ (มีมากกว่าสองตัว)
  • ทำลายความชอบธรรมของการต่อสู้ของคนเสื้อแดง
  • ทำลายภาพลักษณ์ของเสื้อแดง
  • ทำลายขวัญและกำลังใจ
  • ทำลายความกล้าหาญและฮึกเหิมของขบวนการเสื้อแดง
  • ทำลายความเกรี้ยวกราดที่ตรงจุดปัญหา
  • ทำลายโอกาสในการชี้แจง เผยแพร่และเข้าถึงข้อมูล
  • ทำลายชีวิตและทรัพย์สิน และมันกำลังวางแผนจะทำอีกครั้ง หากกลรัฐสภาไม่ได้ผล

ดังนั้น สิ่งที่พี่น้องเสื้อแดงต้องทำ ควรเป็นการทำให้เกิดผลตรงข้ามนี้ อย่างเป็นระบบ ขยันขันแข็ง กล้าหาญ และไม่หย่อนอุดมการณ์

โชคดีเถิด พี่น้องเสื้อแดงที่รักเอ๋ย คนไกลบ้าน ขอภาวนาให้พี่น้องจงระดมความกล้าหาญ สติปัญญา และความมุ่งมั่นสามัคคี ตีปัญหาให้ตรงจุดและสร้างยุทธศาสตร์ยุทธวิธีที่ครบคลุมทุกด้าน และนำประเทศชาติไปข้างหน้าได้สำเร็จ โดยไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายจนเกินไป หากจะเสียหาย ก็จงทำลายก๊กเทพอสุรเสียโดยเร็ว รวบรัด สาธุ

สิ่งที่ผู้กุมอำนาจในระบอบเผด็จการทรราชย์ราชาธิปไตยต้องการ

สิ่งที่ผู้กุมอำนาจในระบอบเผด็จการทรราชย์ราชาธิปไตยต้องการ

สงครามชนชั้นในประเทศไทยแห่งยุคศตวรรษที่ 21 อันได้เริ่มขึ้นในช่วงปลายของการบริหารประเทศชองรัฐบาลที่ประชาชนรักที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ภายใต้การบริหารงานของ ดร. ทักษิณ ชินวัตร นั้น ทำท่าว่าจะยืดยาวกว่าที่ใครหลายคนคิด

ฝ่ายปล้นอำนาจประชาชน รวมตัวกันเพราะผลประโยชน์ หรือความมั่นคงในอำนาจถูกบั่นทอนโดยการเติบโตของการเมืองที่ประชาชนคนรากหญ้าหนุนหลัง การปล้นอำนาจเกิดขึ้นด้วยการวางแผนเป็นขั้นตอน ใช้สื่อที่เสียผลประโยชน์และถูกสั่งได้ คนที่มีชือเสียงที่วังไว้ใจและจงรักภักดีต่อวัง ผ่านเส้นสายขององคมนตรีทั้งคณะ นักการเมืองไร้ฝีมือที่รับใช้อำนาจโบราณเป็นสันดาน ทหารในกำกับของวัง ข้าราชการที่ถูกสร้างให้รับใช้เป็นตีนมือให้กิจของพระราชาตามชื่อ และคนไทยที่หัวอ่อน ถูกล้างสมองมาโดยวัฒนธรรมและระบบการโฆษณาชวนเชื่อนานนับชั่วอายุคน

ฝ่ายประชาชนนั้นเล่า นับแต่ปี 35 เริ่มมีชนชั้นกลางลุกขึ้นมาต่อต้านลัทธิทรราชย์ทหาร ที่พยายามกลับมาเกิด ด้วยการสั่นสะเทือนอำนาจโบราณยังไม่ชัดเจน ความสงบจึงกลับมา พร้อมกับการยอมให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ฉบับแรก ปี 40 ซึ่งนำมาสู่การมั่นคงแข็งแรงของอำนาจทางการเมือง คืออำนาจบริหารและนิติบัญญัติ ที่สามารถมีพลังคัดง้างกับอำนาจเก่าได้ สามารถสร้างความสุขและความหวังให้กับประชาชนระดับล่างที่ถูกสอนให้งมงาย กับค่านิยมพอเพียงของกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในบรรดาราชวงศ์ของโลก

การต่อสู้ที่ผ่านมา ก๊กเทพอสุรทรราชย์ สามารถครองเมืองได้ตามแผนอย่างง่ายดายในระยะแรก เพราะคนไทยยังมึนงง และยังไม่เข้าใจว่าก๊กนี้มีแผนลึกซึ้งขนาดไหน และเป็นอันตรายกับบ้านเมืองขนาดไหน แต่การต่อต้านการรัฐประหารเกิดขึ้นแทบจะทันทีทันใด โดยคนไทยหัวก้าวหน้าจำนวนไม่น้อยที่ไม่หลงกลของก๊กอุบาทว์นี้ การต่อสุ้เคลื่อนไหวต้าน คมช. จึงเกิดขึ้นและขยายลามจนเกิดกระแส ให้พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อไทยในปัจจุบันนี้ เริ่มกล้าต่อสู้ แม้จะสู้ไปตอแหลรับผลการตัดสินของศาลเหี้ยมาตลอด และรับบทพจมาน แห่งบ้านทรายทอง ช่วงกลางเรื่องอย่างอดทน ยอมให้ถูกตบตีออกหน้าจอ จนคนดูละครเห็นภาพชัดเจนถึงความเลวร้ายของไอ้และอีในก๊กเทพอสูร และแน่นอนว่า พอก๊กอสูรยึดอำนาจคืนได้ หลังจากหลงพลาดปล่อยให้เสียคืนกลับไปเพื่อไทยภายใต้การกุมบังเหียนของอดีตนายกหัวใจสีน้ำเงินผุ้รักความยุติธรรม ท่านสมัคร สุนทรเวช พวกมันจึงคิดได้ว่า นับแต่นั้นตลอดมาแจะต้องหน้าด้าน จะต้องรีบรวบอำนาจทุกด้าน ต้องประสานงานกันเข้มแข็ง ใส่ร้ายฝ่ายประชาชนและพรรคของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ไม่กลัวว่าจะค้านสายตาคนไทยหรือต่างประเทศเพียงใด และเมื่อการยุบพรรค การกลั่นแกล้ง และการอ้างพระราชบารมี ไม่ช่วยให้ชนชั้นกรรมกรและชนชั้นล่างหงอได้ แถมยังเติบโตแล้วดึงคนชั้นกลางจำนวนมากเข้าร่วมขบวนการที่พัฒนาเป็นคนเสื้อแดงที่นับวันยิ่งแกร่งกล้า บังอาจสำแดงพลังอย่างน่าหวั่นไหวสำหรับอำนาจเก่า เขาจึงเล่นบทชัดเจนขึ้น โดยประกาศว่า ฉันอยู่ข้างเสื้อเหลืองนะยะ แดงจะตายไปก็ตายไปแบบไพร่ ฉันไม่สนย่ะ นั่นยังไม่พอใจพวกเขา ปีถัดมาเลยกะฆ่าแบบเย้ยหยัน ว่าอย่ามายุ่งกับม้านั่งและอำนาจของกู ยิงธรรมดาไม่ยิง เล่นเอาสไนเปอร์มายิงแบบยิงหมา เพื่อข่มให้คนเสื้อแดงรู้ว่า อย่าบังอาจ

แต่เสื้อแดงมาไกลเกินกว่าจะถอยกลับ และความเลวร้ายของก๊กเทพอสูร ก็มากเกินจะยอมรับได้ ยิ่งดูตัวเลขทางเศรษฐกิจ ดูพัฒนาการทุก ๆ ด้านของการพัฒนาประเทศที่ดิ่งลงเหว ที่ขัดกับภาพการกระแดะและหน้าด้านของรัฐบาลประชาวิบัติที่จีบปากจีบคอพ่นคำเท็จออกหน้าทีวีทุกวัน ประชาชนยิ่งตาสว่าง และเกลียดชังก๊กกินเมืองทั้งก๊ก และดูเหมือนว่าการสมานฉันท์มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะไม่มีใครเชื่อสันดานและเล่ห์กลของเทพอสูรและสมุนที่ทำผิดกฎหมายและศีลธรรมกันแบบโจ๋งครึ่ม และกลัวผลกรรมตามทัน หากทิ้งอำนาจ

สงครามนี้ยืดเยื้อด้วยเหตุผลหลักสองสามประการ
หนึ่ง คนกุมอำนาจ มีสันดานหนา ไม่มีทางยอม

สอง คนเสื้อแดง ตามหลังแกนนำที่เน้นแนวรบรัฐสภาอย่างเดียวมานาน จนไม่ได้พัฒนาศักยภาพในการคิด ทำ และประสานงานเคลื่อนไหวเชิงก้าวหน้าที่นำไปสู่ขั้นตอนแห่งชัยชนะเบ็ดเสร็จได้

สาม ผลจากสองข้อที่กล่าวมา ฝ่ายเทพอสูรหาทางชะลอเวลา ลดกระแสฝ่ายเสื้อแดงด้วยวิธีการและหมากกลทุกทางที่ทำได้ ในรัฐสภาให้พรรควิบัติตอแหลและแดกร่วมกับซาตานปากห้อยแห่งแดนอีสาน แนวรบสื่อก็ให้ใช้สื่อของรัฐทุกสื่อทำหน้าที่เอนเอียงอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าสื่อสามานย์อย่างสนธิและคณะจะแตกคอเพราะไม่ได้ผลประโยชน์สมใจ จะปีนเกลียวกัน แต่เรื่องข้อมูลข่าวสารด้านเดียว พวกมันทำได้ไม่แพ้กลุ่มเสื้อแดงที่เติบโตอย่างเป็นระบบเช่นกัน ผ่านนักรบไซเบอร์ที่เข้มแข็ง ประสานกับนักเคลื่อนไหวทุกระดับ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและให้กำลังใจกันอย่างไม่ขาดสาย

จนวันนี้ กระแสปฎิวัติประชาชน ที่ก่อตัวกันมาอย่างมีที่มาที่ไป คือที่ใดมีการกดขี่และความไม่เป็นธรรม ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน และการต่อต้านมันพัฒนามาอย่างมีเหตุผล และในที่สุด หัวหอกก็ทิ่มไปที่บัลลังก์และบ้านหลังใหญ่ของเทพอสูรและอสุรี และลูกหลาน เมื่อสงครามมันถึงจุดที่สองตัวการใหญ่เจอกัน ตอนต่อไปนี้ จงอย่ากระพริบตา

ทีนี้มาดูว่า ผุ้กุมอำนาจในระบอบนี้ ต้องการอะไร?

พวกนี้ไม่ต้องการสร้างอะไรดี ๆ ผมจึงจะไม่ใช้คำว่าสร้าง แต่จะใช้คำว่าทำลาย ให้พี่น้องเอาไปคิดต่อนะครับ

พวกนี้ต้องการทำลายสิ่งเหล่านี้ครับ

  • ทำลายแกนนำคนสำคัญ
  • ทำลายความสามัคคีของคนเสื้อแดง
  • ทำลายการขยายตัวของคนเสื้อแดง
  • ทำลายเป้าหมายสำคัญให้คลาดเคลื่อนำจากตัวการสำคัญ ๆ (มีมากกว่าสองตัว)
  • ทำลายความชอบธรรมของการต่อสู้ของคนเสื้อแดง
  • ทำลายภาพลักษณ์ของเสื้อแดง
  • ทำลายขวัญและกำลังใจ
  • ทำลายความกล้าหาญและฮึกเหิมของขบวนการเสื้อแดง
  • ทำลายความเกรี้ยวกราดที่ตรงจุดปัญหา
  • ทำลายโอกาสในการชี้แจง เผยแพร่และเข้าถึงข้อมูล
  • ทำลายชีวิตและทรัพย์สิน และมันกำลังวางแผนจะทำอีกครั้ง หากกลรัฐสภาไม่ได้ผล

ดังนั้น สิ่งที่พี่น้องเสื้อแดงต้องทำ ควรเป็นการทำให้เกิดผลตรงข้ามนี้ อย่างเป็นระบบ ขยันขันแข็ง กล้าหาญ และไม่หย่อนอุดมการณ์

โชคดีเถิด พี่น้องเสื้อแดงที่รักเอ๋ย คนไกลบ้าน ขอภาวนาให้พี่น้องจงระดมความกล้าหาญ สติปัญญา และความมุ่งมั่นสามัคคี ตีปัญหาให้ตรงจุดและสร้างยุทธศาสตร์ยุทธวิธีที่ครบคลุมทุกด้าน และนำประเทศชาติไปข้างหน้าได้สำเร็จ โดยไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายจนเกินไป หากจะเสียหาย ก็จงทำลายก๊กเทพอสุรเสียโดยเร็ว รวบรัด สาธุ

ป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย

ป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย

เป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย 
โพสต์โดย : piangdin 
ID # 786740 - โพสต์เมื่อ : 2009-03-23 23:26:16 _ ปิดข้อความ แก้ไข

"เป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย"

เมื่อเรือขาดน้ำ เรือก็เดินไม่ได้
เมื่อศาลเจ้าขาดคนสักการะ มันก็แค่บ้านไม้เก่า ๆ รอวันผุพังเลือนหาย
เมื่อประชาชน ไม่กลัวรถถังและอาวุธ ความน่าเกรงขามของทหารก็หายไป
เมื่อประชาชนไม่ยอมรับความยุติธรรมของศาล ตุลาการทั้งยวงก็เสื่อม
เมื่อประชาชนไม่ยอมก้มหัวให้อำมาตย์ อำนาจเถื่อนก็เสื่อมสลาย
เมื่อประชาชนไม่ยอมนิ่ง เสียงที่เคยดังของอำมาตย์ก็ถูกกลบ
เมื่อประชาชนไม่สนคำสั่งเถื่อนของผู้ปกครอง คำสั่งก็ไม่ต่างจากสั่งน้ำมูก
เมื่อกฎหมายถูกใช้ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรม ประชาชนจะปฎิเสธให้กฎหมายเหลือแค่กระดาษ
เมื่อวันนี้ ประชาชนเขาไม่ยอมรับระบอบเผด็จการ ระบอบจักอยู่ได้อย่างไร
เมื่อนักการเมืองไม่ได้อยู่ในหัวใจของประชาชน จะมีสิทธิบริหารบ้านเมืองได้อย่างไร
แม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีปัญญาบังคับมนุษย์ทุกคนให้นับถือได้
แล้วจะมีการบังคับใด ๆ ได้ผล ในเมื่อหัวใจเสรีประชาธิปไตย มันไม่เอาเผด็จการแน่แล้ว

คิดดูให้ดีแล้ว ท่านจะร่วมมือกับประชาชน ในการอภิวัฒน์สังคม
หรือจะฝืนกระแสธรรมชาติ แล้วออกมาต่อต้านฆ่าฟันประชาชน
การใช้อำนาจเถื่อน จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อประชาชนยังโง่และยอมให้กดขี่
แต่เมื่อใดประชาชนตื่นแล้ว ถูกปลุกจากการมอมเมาแล้ว
ท่านจะไม่มีทางทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเมื่อวานได้

วันนี้ สถาบันและกลุ่มคนเหล่านี้ ต้องคิดทบทวนให้ดีแล้วครับ

พระมหากษัตริย์ 
รัฐบาลเทพประทาน 
ตีนมือ คมช.
ทหาร ตำรวจ 
PAD 
สื่อ นักวิชาการและ NGO หลงหลักจรรยาบรรณ
ข้าราชการและนักการเมืองทุกกลุ่ม

จะเล่นงานประชาชน โดยรวมหัวกันกดขี่ประชาชนแน่หรือ?
แผ่นดิน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งนะครับ 
ระวังจะไม่มีแผ่นดินอาศัยและฝังร่างนะครับ 

ป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย

ป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย

เป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย 
โพสต์โดย : piangdin 
ID # 786740 - โพสต์เมื่อ : 2009-03-23 23:26:16 _ ปิดข้อความ แก้ไข

"เป็นอะไรก็ไร้ค่า ถ้าประชาชนไม่เอาด้วย"

เมื่อเรือขาดน้ำ เรือก็เดินไม่ได้
เมื่อศาลเจ้าขาดคนสักการะ มันก็แค่บ้านไม้เก่า ๆ รอวันผุพังเลือนหาย
เมื่อประชาชน ไม่กลัวรถถังและอาวุธ ความน่าเกรงขามของทหารก็หายไป
เมื่อประชาชนไม่ยอมรับความยุติธรรมของศาล ตุลาการทั้งยวงก็เสื่อม
เมื่อประชาชนไม่ยอมก้มหัวให้อำมาตย์ อำนาจเถื่อนก็เสื่อมสลาย
เมื่อประชาชนไม่ยอมนิ่ง เสียงที่เคยดังของอำมาตย์ก็ถูกกลบ
เมื่อประชาชนไม่สนคำสั่งเถื่อนของผู้ปกครอง คำสั่งก็ไม่ต่างจากสั่งน้ำมูก
เมื่อกฎหมายถูกใช้ไม่เสมอภาคและไม่เป็นธรรม ประชาชนจะปฎิเสธให้กฎหมายเหลือแค่กระดาษ
เมื่อวันนี้ ประชาชนเขาไม่ยอมรับระบอบเผด็จการ ระบอบจักอยู่ได้อย่างไร
เมื่อนักการเมืองไม่ได้อยู่ในหัวใจของประชาชน จะมีสิทธิบริหารบ้านเมืองได้อย่างไร
แม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีปัญญาบังคับมนุษย์ทุกคนให้นับถือได้
แล้วจะมีการบังคับใด ๆ ได้ผล ในเมื่อหัวใจเสรีประชาธิปไตย มันไม่เอาเผด็จการแน่แล้ว

คิดดูให้ดีแล้ว ท่านจะร่วมมือกับประชาชน ในการอภิวัฒน์สังคม
หรือจะฝืนกระแสธรรมชาติ แล้วออกมาต่อต้านฆ่าฟันประชาชน
การใช้อำนาจเถื่อน จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อประชาชนยังโง่และยอมให้กดขี่
แต่เมื่อใดประชาชนตื่นแล้ว ถูกปลุกจากการมอมเมาแล้ว
ท่านจะไม่มีทางทำให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเมื่อวานได้

วันนี้ สถาบันและกลุ่มคนเหล่านี้ ต้องคิดทบทวนให้ดีแล้วครับ

พระมหากษัตริย์ 
รัฐบาลเทพประทาน 
ตีนมือ คมช.
ทหาร ตำรวจ 
PAD 
สื่อ นักวิชาการและ NGO หลงหลักจรรยาบรรณ
ข้าราชการและนักการเมืองทุกกลุ่ม

จะเล่นงานประชาชน โดยรวมหัวกันกดขี่ประชาชนแน่หรือ?
แผ่นดิน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่งนะครับ 
ระวังจะไม่มีแผ่นดินอาศัยและฝังร่างนะครับ 

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

Saturday, May 2, 2015

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"
เมื่อสี่ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมาผมได้คิดทฤษฎีที่จะช่วยอธิบายปรากฏการณ์การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แล้วก็เกิดวลี มดแดงล้มช้าง  เพื่อหาทางปลุกใจให้ประชาชนลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง  วันนี้เหตุผลที่ประชาชนต้องสู้เอง ได้ปรากฏชัดเจนสมบูรณ์แล้ว

  • ดร.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ถูกเจ้ากดหัวไว้เกือบสนิทแล้ว (แต่...อิ ๆ คนอย่างดร.ทักษิณ หมอบราบจริง)
  • พรรคเพื่อไทยไม่แตกก็เหมือนแตก  นักการเมืองที่มีบารมีก็เหมือนลูกไก่ในกำมือเผด็จการ
  • แกนนำนปช. เปลี่ยนจากผู้ชี้นิ้วบงการแทนประชาชน เป็นผู้อ้อนวอนและขอเมตตาจากผู้เข่นฆ่าคนเสื้อแดง และปล้นอำนาจอธิปไตยของคนทั้งชาติไปครองอย่างย่ามใจ
  • เครือข่ายของเจ้าเข้มแข็ง ยิ่งใหญ่และมุ่งมั่นจะล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย โดยอ้างว่า ต้องทำลายระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ   แถมมีพลังทำลายล้างแบบครบวงจร ยากที่ใครคนใดคนหนึ่ง จะลุกขึ้นมานำทัพแบบชัดเจนได้ (อันที่จริง เมื่อทักษิณไม่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือก็จะอ่อนพลัง หรือกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลาสะสมบารมีและกำลังพอสมควร)
  • การต่อสู้ในประเทศไทย ไม่ใช่ระหว่างคนสองตระกูล หรือแค่ทุนศักดินาและเครือข่าย กับ ทุนใหม่ เท่านั้น แต่ได้พัฒนาให้เห็นว่า เป็นสงครามชนชั้นระหว่างกลุ่มศักดินาและทุน กับ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ  วันนี้ เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องปิดบัง ระหว่างสองชนชั้น 
และแน่นอนว่า เมื่อสงครามชัดเจนแล้ว และในสภาพที่เผด็จการสำแดงอำนาจเผด็จการของพวกเขาเต็มที่ ประชาชนจะต้องถูกแบ่งแยก ข่มขู่ กดทับ ขูดรีด และทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันได้ง่าย ๆ อย่างถึงที่สุด ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องหาทางสู้ โดยประชาชนแต่ละคนที่มีจิตสำนึกต่อต้านการครอบงำของเผด็จการต้องร่วมรับผิดชอบอย่างแท้จริง ด้วยการ

  • ไม่นิ่งเฉย 
  • ไม่หยุดการรับข่าวสารใหม่ และเรียนรู้
  • ไม่กลัว 
  • ไม่ท้อ 
  • ไม่หลบหนี 
  • ไม่ทำลายกันเอง คือ ไม่หลงเกม ตกเป็นเครื่องมือของเผด็จการที่ต้องการสลายพลังประชาชน 
  • ไม่หยุดที่จะหาทางต่อรอง ต่อต้าน ต่อสู้ และโจมตี เพื่อทำลายความชอบธรรม (จอมปลอม) ของเผด็จการ ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด
  • ไม่หยุดการสานเครือข่าย ขยายความรู้ ประสานความร่วมมือ และเตรียมการลุกฮือ เพื่อล้มช้างในวันนัดหมาย
  • ไม่งอมืองอเท้าให้ใครมาอ้างการนำ โดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมวางกรอบและใส่รายละเอียดของเป้าหมาย วิธีการต่อสู้ และการสร้างอนาคตที่ถาวร
  • ไม่หยุดการพัฒนาวิธีการต่อสู้ และยกระดับให้สูงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ปกครอง และไม่ยอมให้ปกครองต่อ แล้วนำไปสู่การยึดอำนาจมาเป็นของประชาชน เพื่อสร้างชาติใหม่
สรุปสาระสำคัญที่สุด อันเป็นความจริงที่ประจักษ์ต่อหน้าเราทุกคนก็คือ เราจะต้องเลิกเล่นบทผู้ดู หรือผู้อยู่นิ่งเฉย ไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ และไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง แล้วต้องถือเป็นภารกิจส่วนตัวที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ยื่นมือออกไปประสานกับเพื่อนพ้องน้องพี่รอบตัว ที่เข้าใจปัญหาบ้านเมืองตรงกัน และอยากจะมีส่วนช่วยกันแก้ไข...

ไม่มีใครอื่นที่จะรับหน้าช่วยเหลือแล้วทำให้สำเร็จ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวดอก มองในกระจก ที่คุณเห็นนั่นแหละ ที่เป็นพระเอกและนางเอก ที่แท้จริง  หากคนที่ท่านเห็นในกระจก ไม่ทำอะไรเลย หรือทำอะไรที่ไม่มีผลที่จะสานไปสู่ผลคืบหน้าในภารกิจใหญ่ของการปฏิวัติประเทศเลย เราก็จะไม่มีทางสู่ชัยชนะได้อย่างแท้จริง ...

ลุกมาเป็นนักปฏิวัติ เอาชนะสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง กู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมืองใหม่กันเถิด เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในยุคพวกเรา และเพื่อลูกหลานเหลนของพวกเราในระยะยาวสืบไปชั่วนานแสนนาน

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

Saturday, May 2, 2015

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"

ทางออกประเทศไทย คือกุญแจที่อยู่ในมือ "มดแดงล้มช้าง"
เมื่อสี่ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมาผมได้คิดทฤษฎีที่จะช่วยอธิบายปรากฏการณ์การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย แล้วก็เกิดวลี มดแดงล้มช้าง  เพื่อหาทางปลุกใจให้ประชาชนลุกขึ้นมาสู้ด้วยตัวเอง  วันนี้เหตุผลที่ประชาชนต้องสู้เอง ได้ปรากฏชัดเจนสมบูรณ์แล้ว

  • ดร.ทักษิณและตระกูลชินวัตร ถูกเจ้ากดหัวไว้เกือบสนิทแล้ว (แต่...อิ ๆ คนอย่างดร.ทักษิณ หมอบราบจริง)
  • พรรคเพื่อไทยไม่แตกก็เหมือนแตก  นักการเมืองที่มีบารมีก็เหมือนลูกไก่ในกำมือเผด็จการ
  • แกนนำนปช. เปลี่ยนจากผู้ชี้นิ้วบงการแทนประชาชน เป็นผู้อ้อนวอนและขอเมตตาจากผู้เข่นฆ่าคนเสื้อแดง และปล้นอำนาจอธิปไตยของคนทั้งชาติไปครองอย่างย่ามใจ
  • เครือข่ายของเจ้าเข้มแข็ง ยิ่งใหญ่และมุ่งมั่นจะล้มล้าง ระบอบประชาธิปไตย โดยอ้างว่า ต้องทำลายระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย อย่างไม่ลดละ   แถมมีพลังทำลายล้างแบบครบวงจร ยากที่ใครคนใดคนหนึ่ง จะลุกขึ้นมานำทัพแบบชัดเจนได้ (อันที่จริง เมื่อทักษิณไม่สามารถทำได้แล้ว ที่เหลือก็จะอ่อนพลัง หรือกระจัดกระจาย ต้องใช้เวลาสะสมบารมีและกำลังพอสมควร)
  • การต่อสู้ในประเทศไทย ไม่ใช่ระหว่างคนสองตระกูล หรือแค่ทุนศักดินาและเครือข่าย กับ ทุนใหม่ เท่านั้น แต่ได้พัฒนาให้เห็นว่า เป็นสงครามชนชั้นระหว่างกลุ่มศักดินาและทุน กับ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ  วันนี้ เป็นการเผชิญหน้ากันอย่างชัดเจนแบบไม่ต้องปิดบัง ระหว่างสองชนชั้น 
และแน่นอนว่า เมื่อสงครามชัดเจนแล้ว และในสภาพที่เผด็จการสำแดงอำนาจเผด็จการของพวกเขาเต็มที่ ประชาชนจะต้องถูกแบ่งแยก ข่มขู่ กดทับ ขูดรีด และทำให้ไม่สามารถรวมตัวกันได้ง่าย ๆ อย่างถึงที่สุด ดังนั้น จึงเป็นความจำเป็นที่ประชาชนจะต้องหาทางสู้ โดยประชาชนแต่ละคนที่มีจิตสำนึกต่อต้านการครอบงำของเผด็จการต้องร่วมรับผิดชอบอย่างแท้จริง ด้วยการ

  • ไม่นิ่งเฉย 
  • ไม่หยุดการรับข่าวสารใหม่ และเรียนรู้
  • ไม่กลัว 
  • ไม่ท้อ 
  • ไม่หลบหนี 
  • ไม่ทำลายกันเอง คือ ไม่หลงเกม ตกเป็นเครื่องมือของเผด็จการที่ต้องการสลายพลังประชาชน 
  • ไม่หยุดที่จะหาทางต่อรอง ต่อต้าน ต่อสู้ และโจมตี เพื่อทำลายความชอบธรรม (จอมปลอม) ของเผด็จการ ด้วยวิธีการที่ชาญฉลาด
  • ไม่หยุดการสานเครือข่าย ขยายความรู้ ประสานความร่วมมือ และเตรียมการลุกฮือ เพื่อล้มช้างในวันนัดหมาย
  • ไม่งอมืองอเท้าให้ใครมาอ้างการนำ โดยประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมวางกรอบและใส่รายละเอียดของเป้าหมาย วิธีการต่อสู้ และการสร้างอนาคตที่ถาวร
  • ไม่หยุดการพัฒนาวิธีการต่อสู้ และยกระดับให้สูงและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในการไม่ยอมรับ ไม่ยอมให้ปกครอง และไม่ยอมให้ปกครองต่อ แล้วนำไปสู่การยึดอำนาจมาเป็นของประชาชน เพื่อสร้างชาติใหม่
สรุปสาระสำคัญที่สุด อันเป็นความจริงที่ประจักษ์ต่อหน้าเราทุกคนก็คือ เราจะต้องเลิกเล่นบทผู้ดู หรือผู้อยู่นิ่งเฉย ไม่รับรู้ ไม่รับผิดชอบ และไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง แล้วต้องถือเป็นภารกิจส่วนตัวที่จะต้องทำสิ่งต่าง ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่ตนเองจะทำได้ แล้วขณะเดียวกัน ก็ยื่นมือออกไปประสานกับเพื่อนพ้องน้องพี่รอบตัว ที่เข้าใจปัญหาบ้านเมืองตรงกัน และอยากจะมีส่วนช่วยกันแก้ไข...

ไม่มีใครอื่นที่จะรับหน้าช่วยเหลือแล้วทำให้สำเร็จ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวดอก มองในกระจก ที่คุณเห็นนั่นแหละ ที่เป็นพระเอกและนางเอก ที่แท้จริง  หากคนที่ท่านเห็นในกระจก ไม่ทำอะไรเลย หรือทำอะไรที่ไม่มีผลที่จะสานไปสู่ผลคืบหน้าในภารกิจใหญ่ของการปฏิวัติประเทศเลย เราก็จะไม่มีทางสู่ชัยชนะได้อย่างแท้จริง ...

ลุกมาเป็นนักปฏิวัติ เอาชนะสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง กู้ชาติ และสร้างบ้านแปงเมืองใหม่กันเถิด เพื่ออนาคตที่ดีกว่าในยุคพวกเรา และเพื่อลูกหลานเหลนของพวกเราในระยะยาวสืบไปชั่วนานแสนนาน

Friday, August 14, 2015

ย้อนอ่านความคิด ดร.เพียงดิน เมื่อหนึ่งเดือน หลังการรัฐประหาร 2549