Saturday, March 26, 2016

ข้อคิดจากลุงไม้สี่ อย่ากลัวจนลืมความกล้า (edited)

พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยครับ.
ตลอดเวลาที่ผ่านมาในสถานการณที่ประเทศไทย โดนพวกทหารกบฎมันปล้นอำนาจอธิปไตยจากปวงชนชาวไทยไป มีประชาชนชาวไทยหลายคนยื่นข้อเรียกร้องวิงวรขอให้ประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศษ, หรือ สหภาพยุโรป  ช่วยกันคว่ำบาติทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลเถื่อนของประเทศไทย

ในความเห็นของผมลุงไม้สี่คิดว่าเป็นเรื่อง..ที่เกาไม่ถูกที่คันครับ..เพราะถึง..ประเทศมหาอำนาจต่างๆจะ..บีบทางเศรษฐกิจอย่างไรก็เชื่อว่ารัฐบาลเถื่อนประยุทธ์จะไม่สนใจแน่นอน สาเหตุ?  ก็เพราะว่าที่สถาบันกษัตริย์ของไทยสั่งให้ "ประยุทธ์ จันทโอชา" ยึดอำนาจจากรัฐบาลของท่านนายกยิ่งลักษณ์  ในครั้งนี้มันมีความสำคัญหลายอย่างที่สำคัญมากสำหรับ สถาบันกษัตริย์ไทยคือ:-

1.เพื่อการเปลี่ยนผ่านจาก "รัชกาลที่9" ของวงศ์จักรีสู่ "รัชกาลที่10" ของวงศ์จักรี เพราะรัชกาลที่9 ที่ครองราชอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้นานแล้ว  เนื่องจากป่วยหนักมีอาการครึ่งผีครึ่งคนมานานหลายปี เพียงแค่หมอชักสายให้อ๊อกซิเย็นออกก็จะมีสภาพเป็นผีร้อย%เมื่อเป็นเช่นนี้พวก.

องคมนตรี.ทั้งหลายจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้งผู้จะมาเป็นกษัตริย์คนใหม่ แต่ปัญหาคือจะเอาใครระหว่าง "อีถั่วปากอ้า" หรือ "เสี่ยโอจอมโหด" ที่ใช้เมียเปลืองเหมือนแปรงสีฟัน..กับ "สิรินธร หรือ นางขาถ่าง" ของราชวงศ์จักรีนี้คือ ปัญหาสำคัญสาเหตุของความยุ่งยากคือถ้าเอา "เสี่ยโอจอโหด" ขึ้นครองราชคนไทยทั่วไปต่างก็รู้ว่า "เสี่ยจอมโหด"เป็นศัตรูกับ "กะเทยเฒ่าแห่งบ้านสี่เสา" ชนิดที่ว่าถ้าใครเผลอเป็นตาย แต่ถ้ากะเทยเฒ่าในฐานะเป็นประธานองคมนตรีจะเสนอชื่อสิรินธรขาถ่างขึ้นแทน ก็จะมีปัญหาเพราะต้องได้การยอมรับจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อนถึงจะสามารถขึ้นเป็น "กษัตริย์รัชกาลที่10" ได้ตามกฎหมายที่เขียนบ่งชี้ไว้  เพราะฉะนั้นพวกโจรทหารกบฎมันจึงให้เขียนรัฐธรรมณูญไม่ให้ผ่านประชามติ. เพราะถ้าผ่านประชามติจากประชาชนไปก็ต้องมีการเลือกตั้ง

เมื่อมีการเลือกตั้งก็ต้องมีสภาผู้แทนถ้า "เปรมกะเทยเฒ่า" ส่งชื่อ "สิรินธร" ให้สภาผู้แทนเลือแต่ถ้าสภาผู้แทนเลือกก็ผิดกฎหมายเพราะ "เสี่ยโอจอมโหด" คือ "รัชทายาทตามกฎหมาย"  นี้คือปัญหาที่กลืนไม่ได้คายไม่ออกครับ  เพราะจะเอา "เสี่ยโอจอมโหด" ขึ้น "กะเทยเฒ่าบ้านสี่เสาและพวกองคมนตรี" ก็...กลัวตายและจะตายแน่นอนถ้าเสี่ยโอขึ้นครองราช... สู้ปล่อยให้มันคาราคาซัง อย่างนี้ไปก่อนจนกว่า "เสี่ยโอจอมโหด" จะตายหรือ "กะเทยเฒ่าบ้านสี่เสา" จะตายกันไปข้างหนึ่ง


2.ถ้าให้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรขึ้นมา ก็เชื่อได้ว่า "พรรคเพื่อไทย" ที่มีมวลชนอยู่เป็นจำนวนมากเกินครึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศไทยจะชนะการเลือกตั้งอย่างแน่นอน... เมื่อเป็นเช่นนี้พวกทหารกบฎมันจึงกลัว "พรรคเพื่อไทย" จะได้เป็นรัฐบาล เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลขึ้นมาวันใหน "ทหารกบฎ" กลุ่มนี้กลัวถูกเอาคืนแม้ว่า "พรรคเพื่อไทย" ไม่ทำแต่คนเสื้อแดงซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่โดน "ทหารโจรกบฎ" กลุ่มนี้ตามจองล้างจองผลาญคงไม่ใจดีปล่อยไว้อย่างเด็ดขาด  นี้คือปัญหาที่ทหารกบฎรัฐบาลเถื่อนมันกลัว พี่น้องประชาชนคนไทยครับเวลานี้สภาพการณ์ของคนไทยส่วนใหญ่เหมือนไฟกำลังไหม้บ้านแล้วท่านทั้งหลายจะคอยให้คนมาดับไฟมันให้  แต่ตัว "เจ้าของบ้านคือคนไทย" ไม่ช่วยกันดับไฟมีแต่ยืนโวยวายร้องเรียกให้คนอื่นมาดับให้แล้วใครเขาจะมาช่วยท่านดับละครับ?  ผมลุงไม้4 เชื่อว่าท่านหลายคนคงเคยได้ยินสุภาษิตที่ว่า "อัตตาหิอัตโนนาโถ" ที่แปลว่า "ตนแลเป็นที่พึ่งของตน" ครับ เราคนไทยต้องช่วยกันดับ..ไฟคือ..อำนาจเถื่อน.ที่ทหารกบฎมันเอามากด หัวเหยียบใหล่ของคนไทยอยู่ในเวลานี้


3. ถ้าคนไทยช่วยกันเต็มที่แล้วนั้นละชาวต่างประเทศเขาถึงจะเข้ามาช่วยได้.........
ครับขอบคุณ


ลุงไม้สี่

ยอมกันต่อไป คนไทยเอ๊ย.... “งบซื้ออาวุธเพิ่ม…” / “ปชต.ครึ่งใบเกิดใหม่?”

"งบซื้ออาวุธเพิ่ม…" / "ปชต.ครึ่งใบเกิดใหม่?" Matichon Weekend 26-27 มี.ค.นี้ http://www.matichon.co.th/news/83791

เรื่องจริงอันแสนเศร้า ชาวนา ทำนา ปลูกข้าว ส่งลูกสาวจบปริญญาโท ... แต่ดันไปสนับสนุน กปปส. ล้มรัฐบาลที่ช่วยชาวนา

พ่อแม่ เป็นชาวนา ในภาคกลาง ทำนาปี นาปรัง สองปี ห้ารอบ เอาข้าวเปลือก เข้าโครงการจำนำข้าว ได้เงินมา ส่งช่วยลูกสาว ที่ทำงานและเรียน ปริญญาโทไปด้วย ข้าวของเครื่องใช้ เกือบทุกอย่าง ที่พ่อแม่ซื้อให้ มาจากเงินจำนำข้าว

ในช่วงเหตุการณ์ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ลูกสาวที่เป็นผู้มีการศึกษา เป็นชนชั้นกลางในเมือง แต่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ ไปร่วมม็อบ กปปส. ไปเป่านกหวีดไล่ยิ่งลักษณ์ อัพรูปลงเฟสบุ๊ค ซื้อของที่ระลึก บริจาคเงิน ให้ลุงกำนัน เพื่อเอาไปช่วยชาวนา ภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ ดีใจที่ทหารออกมา ทำรัฐประหาร จะได้ปฏิรูป ก่อนเลือกตั้ง

เวลาผ่านไป เกือบสองปี หลังรัฐประหาร ลูกสาวตกงาน เพราะบริษัทที่ทำงานอยู่ ย้ายฐานการผลิต ไปต่างประเทศ
 พ่อแม่ทำนาได้ เพียงนาปี เพราะถูกห้ามทำนาปรังมา จะสองปีแล้ว ข้าวเปลือก ก็ราคาตกต่ำ แถมยังต้องซื้อข้าวสารกิน ในราคาเดิม   มาปีนี้ เจอภัยแล้ง โหมกระหน่ำ เงินเก็บ ที่พ่อแม่พอมีอยู่บ้าง ก็ต้องส่งให้ลูกสาว ที่ไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน ยังหางานทำที่กรุงเทพ

พ่อแม่ คิดถึง จำนำข้าว อยากเลือกตั้ง ให้บ้านเมือง กลับสู่ภาวะปกติ ที่เคยเป็น
  แต่ลูกสาวยังบอกว่า ที่บ้านเมืองเลวร้าย อยู่ทุกวันนี้เป็นเพราะ ระบอบทักษิณ

ท่านอ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกอย่างไร 
  นี่คือเรื่องจริง ที่เกิดอยู่ในบ้านเมืองนี้
 พ่อแม่ เป็นชาวนา ป.4 แต่ลูกสาว จบปริญญาโท
 การศึกษา ของประเทศนี้ มันสร้างคนได้จริงหรือ หรือมันอยู่ที่คน

หรือมันเป็นอย่างที่ว่า ขายข้าว ขายนา ขายวัว ส่งควายเรียน

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 34 เรื่องวุ่น ๆ ของวังอลเวง และการอุ้มเปรมไว้คู่บัลลังก์

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 34 เรื่องวุ่น ของวังอลเวง และการอุ้มเปรมไว้คู่บัลลังก์

https://youtu.be/77xWpIT4PaM

หรือ

https://youtu.be/roSr8Xvw4iw

หรือ

https://youtu.be/uGuAOfxJ4pk

 

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งรายละเอียดและรายงานผลการปฏิบัติงานได้ทางอีเมล์

4everche@gmail.com

 

******************

เย็นลมป่า-อาคม ซิดนี่ย์ เมื่อน้องเล็กหักดิบพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ "บิ๊กป้อมจะสู้หรือถอย

รายการเสรีชนค้นหาความจริงประจำวันที่ 26 มีนาคม 2559 โดยเย็นลมป่า-อาคม ซิดนี่ย์
เมื่อน้องเล็กหักดิบพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ "บิ๊กป้อมจะสู้หรือถอย"

Friday, March 25, 2016

ดร. เพียงดิน รักไทย 26 มีนาคม 2559: เมื่อ "โจรกบฏ" แบ่งทรัพย์ลงตัว ปวงชนไทยเจองานหนักแน่!!

ดร. เพียงดิน รักไทย 26 มีนาคม  2559: เมื่อ "โจรกบฏ" แบ่งทรัพย์ลงตัว ปวงชนไทยเจองานหนักแน่!!

https://youtu.be/lI8Mrj-Noe8

หรือ

https://youtu.be/UomCpw7MdkA

หรือ

https://youtu.be/wxP6tbIcxSA

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

หรือส่งรายละเอียดและรายงานผลการปฏิบัติงานได้ทางอีเมล์

4everche@gmail.com

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

“ผมเกือบเชื่อ เรื่องทักษิณ......"

ผ่านมาทางไลน์

ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดีแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคนที่เผยแพร่ปฏิญญาฟินแลนด์ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปีฐานหมิ่นประมาทคุณทักษิณ

ผมเกือบเชื่อเรื่องการทำบุญวัดพระแก้วของคุณทักษิณเป็นการหมิ่นเบื้องสูงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งอัยการสั่งไม่ฟ้องโดยอ้างรองราชเลขาฯเป็นพยานยืนยันไม่ขัดต่อระเบียบหรือขั้นตอนแต่อย่างไร

ผมเกือบเชื่อเรื่อง กกต.ยุคคุณวาสนา เป็นจำเลยฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลฏีกายกฟ้อง

ผมเกือบเชื่อเรื่อง คุณนพดลลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเป็นการขายชาติแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลฎีกาฯมีมติยกฟ้อง ชี้เป็นการตัดสินใจตามสถานการณ์ ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน

ผมเกือบเชื่อเรื่องกองทุนหมู่บ้าน เป็นนโยบายให้ชาวบ้านซื้อมือถือกับมอเตอร์ไซด์แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณสมคิดนำนโยบายกองทุนหมู่บ้านมาปัดฝุ่นใช้ใหม่

ผมเกือบเชื่อเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทย เพราะกรรมการบริหารพรรคจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้งแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ชี้พยานหลักฐานไม่ชัด

ผมเกือบเชื่อเรื่องการรับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาด ทำให้ชาติขาดทุนแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีการรับซื้อยางในราคาสูงกว่าตลาดเช่นกัน

ผมเกือบเชื่อเรื่องการสร้างรถไฟความเร็วสูง ควรรอให้ถนนดินลูกรังเสร็จทั้งประเทศก่อนแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งมีแผนทำรถไฟแม้จะเป็นแค่รถไฟความเร็วปานกลางก็เถอะ

ผมเกือบเชื่อเรื่องสองนปช.เผาเซ็นทรัลเวิร์ลด์แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง โดยชี้พยานหลักฐานไม่พอ

ผมเกือบเชื่อเรื่องสามนปช.ยิงฮ.ทหารแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ส่วนศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ

ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณสุเทพบอกให้ทหารใช้กระสุนปลอมระหว่างขอคืนพื้นที่แล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณอภิสิทธ์ให้สัมภาษณ์สื่อนอกเป็นคนอนุญาตให้ใช้กระสุนจริง

ผมเกือบเชื่อเรื่องการตายของคนเสื้อแดงเกิดจากการฆ่ากันเองแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งศาลวินิจฉัยอย่างน้อยสิบกว่าศพตายจากกระสุนที่มาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่

ผมเกือบเชื่อเรื่องผังล้มเจ้าเป็นเรื่องจริงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณสรรเสริญสารภาพกลางศาลว่าผังลัมเจ้านั้นเป็นแค่ความเชื่อของศอฉ.ในขณะนั้นเอง

ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นเหล่านักลากตั้งทั้งหลายก็ล้วนแต่เอื้อประโยชน์ให้ญาติสนิทมิตรสหายไม่ต่างกัน

ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่โกงประเทศชาติแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นส่วนต่างของราคาจากการจัดซื้อจัดจ้างของพวกที่ไม่ใช่นักการเมือง

ผมเกือบเชื่อเรื่องพรรคใหญ่พามวลชนสู่ท้องถนน เพราะต้องการปฏิรูปประเทศแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งเห็นพลพรรคออกมาคัดค้าน ต่อต้าน แนะนำ เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อตัวเองดังใจ

ผมเกือบเชื่อเรื่องคนดีต้องการให้แสดงจริยธรรมก่อนกฎหมายลงโทษแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งผมเห็น กกต.ยุติสอบคุณสมบัติของคุณอภิสิทธิ์ โดยอ้างคดียังไม่ถึงที่สุด

และสุดท้ายผมเกือบเชื่อเรื่องรัฐธรรมนูญของคุณมีชัยมีไว้ปราบโกงแล้วไหมล่ะ
จนกระทั่งคุณมีชัยออกมาพูดเรื่องการใช้เอกสารปลอม ไม่ว่าจะต้องการหนีทหารหรือรับเงินเดือนจากการใช้เอกสารเท็จ ไม่ใช่การทุจริต จึงไม่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญของคุณมีชัย

ตัดวงจรทางการเมือง โดย วีรพงษ์ รามางกูร

ตัดวงจรทางการเมือง
-
March 25, 2016 by Woodside New York

" เหตุการณ์ชุมนุมกันข้างถนน ความรุนแรงระหว่างประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เกิดขึ้นเพราะกองทัพไม่ทำหน้าที่ของตนที่ถูกต้อง หรือไม่ก็เป็นฝ่ายที่อยู่เบื้องหลังเสียเอง เพราะกองทัพตั้งตนเป็น "อิสระ" จากรัฐบาลและคอยหาโอกาสเข้ามาเป็นรัฐบาลเสียเอง "

โดย วีรพงษ์ รามางกูร
มติชนออนไลน์
24 มี.ค. 59


จากเหตุผลทางประวัติศาสตร์และโครงสร้างอำนาจทางการเมือง บวกกับความคิดที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัยของโลก หลายสิ่งได้เปลี่ยนไป วันข้างหน้าเป็นยุคของคนรุ่นใหม่ซึ่งได้รับการศึกษา ได้รับการเรียนรู้ สื่อสารมวลชนที่เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ทุกสถานที่อย่างทั่วถึง ระบบสื่อสารที่รวดเร็วฉับไวและราคาถูก ทำให้ไม่มีพื้นที่ใดเป็นชนบทอีกต่อไป การเข้าออกโยกย้ายถิ่นฐานทำได้ง่ายขึ้น ทำให้ความต้องการของคนส่วนใหญ่หรือที่เรียกกันว่า "คนชั้นรากหญ้า" หรือ "grass root people" มีความสามารถเพิ่มขึ้นจากเรื่องเศรษฐกิจที่เดิมเป็นเรื่องรูปธรรม นำไปสู่สิ่งที่เป็น "นามธรรม" เช่น สิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียมกัน ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ การมีส่วนร่วมทางการเมือง

-
สิ่งที่เป็นนามธรรมเหล่านี้ คนชั้นสูงที่อยู่ในกรุงเทพฯไม่ตระหนัก คิดแต่เพียงว่าคนรากหญ้าพวกนี้ไม่มีสติปัญญาที่จะเลือกผู้ปกครองของตนเองได้ คอยแต่จะ "ขายเสียง" เท่านั้น จึงเป็นโอกาสให้นายทุนพรรคการเมืองสามารถใช้เงินซื้อเสียงเข้ามาเป็นรัฐบาล ถอนทุนคืน บ้านเมืองเสียหาย ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนเชื่อว่าพวกตนเท่านั้นที่ "จงรักภักดี" ผู้ที่เห็นต่างเป็นพวกที่ไม่จงรักภักดี เท่ากับเป็นการผลักให้ "คนรากหญ้า" ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ถูกกีดกันออกจากการมีส่วนร่วมในการกำหนดชะตากรรมของบ้านเมืองโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง เพราะการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคโลกาภิวัตน์ ถ้าไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยวิธีที่สันติ การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้นโดยผ่านความรุนแรง

-
การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงนั้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่มีเหตุผล คาดเดาไม่ได้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรเพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงด้วยอารมณ์และ ไม่ใช้เหตุผล มักจะเปลี่ยนแปลงแบบสุดโต่งซึ่งไม่เป็นผลดีกับใครเลย

-
การยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อหวนไปสู่รัฐบาลและการเมือง "แบบประชาธิปไตยครึ่งใบ" ตามรัฐธรรมนูญปี 2521 เป็นความปรารถนาที่เป็นไปได้ยากเสียแล้ว เพราะเวลาที่ผ่านมากว่า 35 ปี ผู้คนก็เป็นคนละรุ่นแล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นหลักของบ้านเมืองก็จากไป หรือไม่ก็มีความอาวุโสมากเกินกว่าจะติดตามความคิดของคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยมี โอกาสจะแสดงออกทางการเมืองตามธรรมชาติได้

-
การที่จะต้องมีระบบการเมืองเปิด วาทกรรมที่ว่าถ้าเปิดแล้วก็จะเกิดการแตกแยก เอาชนะคะคานโดยใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่นกันนั้น เป็นสมมุติฐานที่ไม่เป็นความจริง เหตุการณ์ชุมนุมกันข้างถนน ความรุนแรงระหว่างประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เกิดขึ้นเพราะกองทัพไม่ทำหน้าที่ของตนที่ถูกต้อง หรือไม่ก็เป็นฝ่ายที่อยู่เบื้องหลังเสียเอง เพราะกองทัพตั้งตนเป็น "อิสระ" จากรัฐบาลและคอยหาโอกาสเข้ามาเป็นรัฐบาลเสียเอง

-
ถ้าจะให้มีการเริ่มต้น สิ่งแรกคือผู้นำกองทัพต้องมีจิตใจเป็นนักประชาธิปไตย มีอุดมการณ์ที่จะเป็นผู้พิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งแม้ไม่ใช่ทั้งหมดของประชาธิปไตย แต่ก็เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้ของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย การปฏิเสธระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยอ้างวาทกรรมดังกล่าว จึงเป็นการก้าวล่วงของผู้ที่ได้ประโยชน์จากระบอบเผด็จการทหาร หรือเสียประโยชน์จากระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย หรือมีความรู้สึกทาง "ชนชั้น" อย่างรุนแรง เพราะทนไม่ได้กับกิริยามารยาท ทัศนคติ ความไม่โปร่งใส ของนักการเมืองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่สิ่งเหล่านี้ตนมองไม่เห็นจากรัฐบาลทหาร ที่ตนคิดว่ามาจากชนชั้นเดียวกัน

-
กลับไปสู่ฐานะที่ควรจะเป็น "กองทัพ" ในระบอบประชาธิปไตยทำหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย เอกราช บูรณภาพของดินแดนของประเทศ ในกรณีพิเศษก็ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย ปกป้องคุ้มครองภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือความสงบเรียบร้อย เมื่อได้รับการร้องขอจากรัฐบาล เมื่อมีการประกาศภาวะฉุกเฉินและเกินกำลังของพนักงานตำรวจ
ข้ออ้างมาตรฐานที่ใช้สร้างกระแสปูทางไปสู่การปฏิวัติรัฐบาล 3 ข้อ คือ รัฐบาลปล่อยให้มีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็ดี, รัฐบาลปล่อยให้มีการฉ้อราษฎร์บังหลวง, รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ปล่อยให้มีโจรผู้ร้ายชุกชุม ไม่สามารถรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ ก็ควรเป็นเรื่องของรัฐบาลในขณะนั้นที่จะต้องดูแลป้องกันภัยพิบัติ เป็นภาระหน้าที่ของพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่เป็นฝ่ายตรงข้ามได้เสนอทางเลือก ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หรือยิ่งไปกว่านั้นก็เสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้มีการยุบสภา ให้มีการเลือกตั้งใหม่

-
การถูกตรวจสอบจะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนให้ความสนใจ เอาใจใส่ผู้แทนของตนว่าได้ทำหน้าที่สมกับที่ได้รับมอบหมายหรือไม่
ในพื้นที่ต่างจังหวัดอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้น การมีผู้แทนราษฎรเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเป็นการถ่วงดุลข้าราชการประจำจังหวัดของตน เป็นผู้ที่ผลักดันให้มีโครงการพัฒนาในจังหวัด เป็นปากเสียงให้ประชาชนที่ไม่ได้รับความยุติธรรมในท้องถิ่น แต่บางครั้งก็มักจะได้ยินว่ากระทำผิดฐาน "ผู้มีอิทธิพล" ทำการค้ายาเสพติดและของหนีภาษี หรือการค้ามนุษย์ ซึ่งเกินกำลังของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง กองทัพในประเทศกำลังพัฒนาอาจจะช่วยเสริมกำลังของเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาเป็นรัฐบาลเสียเอง

-
จุดอ่อนและข้อบกพร่องต่างๆ ของระบอบการปกครองประชาธิปไตยที่เราประสบนั้น ประเทศที่ประชาธิปไตยหยั่งรากลึกก็ต้องผ่านประสบการณ์ดังกล่าวมาทั้งสิ้น สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ในที่สุดประชาชนก็สามารถควบคุมราชการและนักการเมืองของเขาได้

-
คนไทยได้รับการศึกษาไม่น้อยกว่าคนอินเดีย ไม่น้อยกว่าคนปากีสถาน ไม่น้อยกว่าคนฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย รายได้ต่อหัวก็สูงกว่าประเทศเหล่านั้น ปัญหาทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงก็มีกันอยู่ทุกประเทศ ไม่เว้นแม้แต่มาเลเซียและสิงคโปร์ จนอาจจะถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมที่น่ารังเกียจของเอเชีย ที่มีเหตุผลมาจากประวัติศาสตร์ ที่มีผีสาง เทวดา นางไม้ เจ้าป่าเจ้าเขา แม้แต่พระพุทธรูป ผู้คนก็ยังอุตส่าห์ไปติดสินบน ขอโชคขอลาภ ซึ่งไม่มีในสังคมตะวันตก เราได้ผ่านขั้นตอนของ "ประชาธิปไตยครึ่งใบ" ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดีในช่วง พ.ศ.2521-2535 แต่ต่อมาหลังจากนั้น มาสะดุดหยุดลงเมื่อมีการรัฐประหารปี 2549 ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะกลับย้อนไปสู่การเมืองปี 2521 อีก ถึงแม้จะพยายามกลับไปก็จะทำไม่ได้ จะเกิดเหตุการณ์อย่างที่เราเรียกกันติดปากว่า "พฤษภาทมิฬ" อีก

-
หากจะนำเอารัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งนับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความชอบธรรมที่สุดในบรรดารัฐธรรมนูญทั้งหมด 20 ฉบับ บทบัญญัติจะดีไม่ดีก็แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมได้ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวที่ร่างโดยผู้แทนฯของประชาชนชาวไทย

-
การตั้งเป้าหมายกีดกันพรรคการเมืองที่ได้รับเสียงจากประชาชนส่วนใหญ่เป็น สิ่งที่ทำได้ยาก เป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก แม้จะพยายามอธิบายก็ไม่มีใครฟัง ไม่มีทางได้เสียงสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
การตัดวงจร "ปฏิวัติรัฐประหาร-เลือกตั้งประชาธิปไตย" ที่วนเวียนเป็นวัฏจักรนี้ สามารถทำได้โดยการนำรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 แก้ไขเพิ่มเติม 2559 มาใช้ได้ทันที การดึงรั้งถ่วงการคืนอำนาจให้ประชาชนในยุคนี้ ย่อมเป็นการเสี่ยงต่อการที่จะเกิดความเสียหาย ความสูญเสีย ไม่ช้าก็เร็ว
-
จะหยิบรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งมาใช้หากร่างฉบับปัจจุบันไม่ผ่านประชามติ ก็จะเป็นเรื่องที่จะไปกันใหญ่ ความชอบธรรมจะหมดไปในทันที
ประชาชนจะถามหาผู้รับผิดชอบ



ผมเกือบเชื่อเรื่อง......แล้วไหมล่ะ

-ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดีแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งคนที่เผยแพร่ปฏิญญาฟินแลนด์ถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 1 ปีฐานหมิ่นประมาทคุณทักษิณ

-ผมเกือบเชื่อเรื่องการทำบุญวัดพระแก้วของคุณทักษิณเป็นการหมิ่นเบื้องสูงแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งอัยการสั่งไม่ฟ้องโดยอ้างรองราชเลขาฯเป็นพยานยืนยันไม่ขัดต่อระเบียบหรือขั้นตอนแต่อย่างไร

-ผมเกือบเชื่อเรื่อง กกต.ยุคคุณวาสนา เป็นจำเลยฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งศาลฏีกายกฟ้อง ผมเกือบเชื่อเรื่อง คุณนพดลลงนามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาเป็นการขายชาติแล้วไหมล่ะ จนกระทั่งศาลฎีกาฯมีมติยกฟ้อง ชี้เป็นการตัดสินใจตามสถานการณ์ ไม่ทำให้ไทยเสียดินแดน

-ผมเกือบเชื่อเรื่องกองทุนหมู่บ้าน เป็นนโยบายให้ชาวบ้านซื้อมือถือกับมอเตอร์ไซด์แล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งคุณสมคิดนำนโยบายกองทุนหมู่บ้านมาปัดฝุ่นใช้ใหม่

-ผมเกือบเชื่อเรื่องการยุบพรรคไทยรักไทย เพราะกรรมการบริหารพรรคจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้งแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งมีศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ชี้พยานหลักฐานไม่ชัด

-ผมเกือบเชื่อเรื่องการรับจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาด ทำให้ชาติขาดทุนแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งมีการรับซื้อยางในราคาสูงกว่าตลาดเช่นกัน

-ผมเกือบเชื่อเรื่องการสร้างรถไฟความเร็วสูง ควรรอให้ถนนดินลูกรังเสร็จทั้งประเทศก่อนแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งมีแผนทำรถไฟแม้จะเป็นแค่รถไฟความเร็วปานกลางก็เถอะ

-ผมเกือบเชื่อเรื่องสองนปช.ฌาปนกิจเซ็นทรัลเวิร์ลด์แล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง โดยชี้พยานหลักฐานไม่พอ

-ผมเกือบเชื่อเรื่องสามนปช.ยิงฮ.ทหารแล้วไหมล่ะ จนกระทั่งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ส่วนศาลฎีกาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ

-ผมเกือบเชื่อเรื่องคุณสุเทพบอกให้ทหารใช้กระสุนปลอมระหว่างขอคืนพื้นที่แล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งคุณอภิสิทธ์ให้สัมภาษณ์สื่อนอกเป็นคนอนุญาตให้ใช้กระสุนจริง ผมเกือบเชื่อเรื่องการตายของคนเสื้อแดงเกิดจากการฆ่ากันเองแล้วไหมล่ะ จนกระทั่งศาลวินิจฉัยอย่างน้อยสิบกว่าศพตายจากกระสุนที่มาจากฝ่ายเจ้าหน้าที่

-ผมเกือบเชื่อเรื่องผังล้มเจ้าเป็นเรื่องจริงแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งคุณสรรเสริญสารภาพกลางศาลว่าผังลัมเจ้านั้นเป็นแค่ความเชื่อของศอฉ.ในขณะนั้นเอง

-ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งเห็นเหล่านักลากตั้งทั้งหลายก็ล้วนแต่เอื้อประโยชน์ให้ญาติสนิทมิตรสหายไม่ต่างกัน

-ผมเกือบเชื่อเรื่องมีแต่นักการเมืองเท่านั้นที่โกงประเทศชาติแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งเห็นส่วนต่างของราคาจากการจัดซื้อจัดจ้างของพวกที่ไม่ใช่นักการเมือง

-ผมเกือบเชื่อเรื่องพรรคใหญ่พามวลชนสู่ท้องถนน เพราะต้องการปฏิรูปประเทศแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งเห็นพลพรรคออกมาคัดค้าน ต่อต้าน แนะนำ เมื่อเห็นรัฐธรรมนูญไม่ได้เอื้อตัวเองดังใจ

-ผมเกือบเชื่อเรื่องคนดีต้องการให้แสดงจริยธรรมก่อนกฎหมายลงโทษแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งผมเห็น กกต.ยุติสอบคุณสมบัติของคุณอภิสิทธิ์ โดยอ้างคดียังไม่ถึงที่สุด

-และสุดท้ายผมเกือบเชื่อเรื่องรัฐธรรมนูญของคุณมีชัยมีไว้ปราบโกงแล้วไหมล่ะ

จนกระทั่งคุณมีชัยออกมาพูดเรื่องการใช้เอกสารปลอม ไม่ว่าจะต้องการหนีทหารหรือรับเงินเดือนจากการใช้เอกสารเท็จ ไม่ใช่การทุจริต จึงไม่ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญของคุณมีชัย


*********** ขอขอบคุณ ที่คุณแค่เกือบเชื่อ ***********

ผมลอกเขามาจาก นปชusa แต่ต้องขอบคุณ ผู้เขียนมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ



คนต้องเท่ากับคน 23 มีค 59

คนต้องเท่ากับคน 23 มีค 59  

อย่าให้ชีวิตหมาได้รับการดูแล-ความยุติธรรมดีกว่าชีวิตคน บนแผ่นดินไทย

สุหฤท เตือน อย่าให้ชีวิตหมาได้รับการดูแล-ความยุติธรรมดีกว่าชีวิตคน บนแผ่นดินไทย

-
วันที่ 25 มีนาคม นายสุหฤท สยามวาลา นักธุรกิจและอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ความเห็นลงในแฟนเพจส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 5.6 แสนคน กรณีศาลจำคุก 14 เดือน หนุ่มยิงหมาหน้าห้างดังตาย โดยได้ขอโทษสังคม และระบุว่าพร้อมปรับปรุงตัว

-
โดยนายสุหฤท ระบุว่า มีใครรู้สึกเหมือนผมไหมครับ เมืองไทยหมาได้รับการดูแลที่ดี คนทำร้ายได้รับโทษที่ควรจะเป็นอย่างรวดเร็ว หมามันไม่ต้องวิ่งเต้น ไม่ต้องเสียตังค์สักแดง

-
แต่ถ้าเป็นมนุษย์ในเมืองไทย กว่าจะทำอะไรนี่ต้องให้กดดันแล้วกดดันเล่า กราบกราน ขอร้อง ไหว้ผู้ที่เราเสียภาษีเลี้ยงดูเงินเดือนเขาให้ช่วยทำงาน ให้ความกรุณาเราอย่างถึงที่สุด กราบกรานเพื่อให้เขามอบความยุติธรรมตามกฏหมาย หรือว่าคนร่างกฏหมายเรารักหมามากๆ ที่ทำให้คนทำผิดไม่มีรอลงอาญา ติดคุกทันทีสองเคสด้วยกัน รับกรรมทันที พ่อแม่หมาที่เสียชีวิตไม่ต้องร้องไห้ ทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส ร้องขอความเป็นธรรมให้กับมนุษย์ที่เป็นลูกเป็นสายเลือดของตนเอง

-
ให้โทษกับผู้ที่ทำร้ายหมาเป็นเรื่องดี การดูแลชีวิตมนุษย์ที่เขาต้องเสียชีวิตยิ่งต้องทำอย่างที่สุดให้เหนือชีวิตหมา อย่าให้ชีวิตหมาได้รับการดูแลดีกว่าชีวิตมนุษย์……….ที่ประเทศไทย


-



สื่อด้วย ภาพ

สื่อด้วย ภาพ 

Thursday, March 24, 2016

“ไทมส์ “ บอกอเมริกาควรจะหยุดรัฐบาลทหารไทยนำประเทศถอยหลังลงคลองได้แล้ว

"ไทมส์ " บอกอเมริกาควรจะหยุดรัฐบาลทหารไทยนำประเทศถอยหลังลงคลองได้แล้ว... The United States should do what it can to stop the junta from setting the country back any further. พร้อมกับพาดหัวตัวโตว่า "How America Can Put Thailand Back on Track " หรืออเมริกา " จะทำยังไงให้ไทยกลับมาเหมือนเดิมได้
-
จับตา "อเมริกา" กับบทบาทที่ถูกบีบ ให้ต้องจัดการ "เผด็จการทหารไทย" 
-
โดย ดร. เพียงดิน รักไทย 
-



ความหมาย คุณค่า และความสวยงามของประชาธิปไตย - ประจักษ์ ก้องกีรติ



Download

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว พี่น้องประชาชนจะเอาอย่างไร

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว พี่น้องประชาชนจะเอาอย่างไร
งานเขียนสะท้อนสังคมหลอกลวง .. จึงเอามาฝากครับ

Cr. หมูแดง นปชusa
--------------------------
นายหน้า
-
ทิ้งหมัดเข้ามุม
-
มันฯ มือเสือ
-
อิดออดอยู่พักใหญ่
-
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ แสดงท่าทางลำบากใจกับ 3 ข้อเสนอปรับปรุงบทเฉพาะกาลร่างรัฐธรรมนูญ
-
ถึงขนาดยกนิทานเรื่องสร้างบ้านมาเล่าเป็นฉากๆ
-
หรือ กรธ.บางคนก็อ้างในตอนแรกว่า ไม่เห็นด้วยกับ 3 ข้อเสนอเท่าใดนัก เพราะไม่อยากโดนด่า ยังต้องการมีที่ยืนในสังคม
-
พูดเสียจนหลายคนมโนไปว่า ถ้ากรธ.ถูกกดดันหนักเข้า อาจมีบางคนถอดใจ ลาออก
-
ปิดห้องคุยวันแรก ยังมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่าบรรยากาศประชุม กรธ.ต่างแสดงความเห็นกันดุเดือด
-
บางคนบอกว่าถ้าปรับแก้ก็เท่ากับต้องรื้อโครงสร้างรัฐธรรมนูญที่ทำมาใหม่หมด
-
ที่สำคัญในการยกร่างประเด็นสำคัญๆ ได้ทำแบบสอบถาม เปิดฟังความเห็นประชาชนมาแล้ว
-
ถ้าต้องปรับแก้ก็ไม่รู้จะตอบสังคมอย่างไร ว่าทำไมน้ำหนักความเห็นประชาชน ถึงน้อยกว่าของคนเพียงไม่กี่คน
-
เมื่อได้ยินได้ฟังตามข่าว ฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจผ่านกลไกรัฐธรรมนูญก็ยังมีความหวังว่า
-
ไม่น่าใช่เรื่องจริงต่อกระแสข่าวลือที่มีมาก่อนหน้าว่า
-
ในการเสนอ 3 ข้อบทเฉพาะกาล คนเสนอกับคนรับข้อเสนอมาพิจารณารู้เห็นกันมาตั้งแต่แรก
-
แต่ที่กรธ.ต้องทำเป็นแทงกั๊ก เพราะ ไม่ต้องการประเจิดประเจ้อ
-
เดี๋ยวจะเสียหายทั้งคนออก-คนรับใบสั่ง
-
แต่ความจริงย่อมหนีความจริงไม่พ้น
-
ผลประชุม กรธ.ที่สรุปออกมาเย็น วันอังคาร
-
บางคนเปรียบเทียบว่า เหมือนการค้าที่คนทำกับขายต้องตั้งราคาสินค้าให้แพงๆ ไว้ก่อน แล้วค่อยลดราคาลงมาทีหลัง
-
เช่น สินค้าต้นทุน 10 บาท กรธ.รับมาขายต่อ 20 บาท พอมีคนมาขอต่อราคา เพื่อให้ตัวเองดูดี คนขายก็อ้างว่ารับมาแพง จะลดให้ก็ต้องขาดทุน แต่เพราะเห็นคนซื้อเป็นชาวบ้านยากจน เลยยอมตัดใจลดให้ 1 บาทขาดตัว
-
ลดให้มากกว่านี้ไม่ได้ เพราะของดี ย่อมแพงเป็นธรรมดา
-
เมื่อรู้เล่ห์เหลี่ยมนายทุนพ่อค้าหน้าเลือดอย่างนี้
-
ก็อยู่ที่คนซื้อตัดสินใจว่า เอาหรือไม่เอาสินค้าชิ้นนี้ดี
-
ยังมีเวลาคิดอีก 4 เดือนเศษๆ



เราจะปล่อยให้สังคม เป็นอยู่อย่างนี้ หรือ

เราจะปล่อยให้สังคม เป็นอยู่อย่างนี้ หรือ

http://tahr-global.org/wp-content/uploads/2016/03/38.gif

การกำจัดทรราช เป็นหน้าที่ของพลเมือง ไทยทุกคน

การกำจัดทรราช เป็นหน้าที่ของพลเมือง ไทยทุกคน
-
เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน ต้องสร้างอนาคต ให้ลูกหลานของเรา
 -
คำว่า "คุณ" หมายถึง ความดีที่มีประจำอยู่ในสิ่งนั้นๆ  และเป็นคำที่ใช้เรียกนำหน้า  เพื่อแสดงความยกย่อง เช่น คำว่า "คุณแผ่นดิน" ที่แสดงได้ชัดเจนว่า ภายใต้แผ่นดินที่แม้กว้างใหญ่เพียงไรก็จะมีสิ่งดีงามที่เหล่าวีรชนผู้กล้าสร้างไว้อยู่เสมอ 
-
เพราะแผ่นดิน ทำประโยชน์ให้แก่เราเป็นอันมาก 
-
เพราะแผ่นดินเป็นที่เกิดแก่เจ็บตาย ของพวกเราทั้งผอง 
-
เพราะแผ่นดินนี้ ไม่ใช่ให้ อำมาตย์ ทรราช ต้องมายึดครอง
-
แต่มาวันนี้ ทรราช คสช. ใช้ความ อยุติธรรม ครอยงำ ประเทศ  ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของพวกเราทุกคน ที่จะต้อง ต่อต้านและกำจัดทรราช คสช. และอำมาตย์ชั่วเหล่านั้น ให้หมดสิ้นจากแผ่นดินนี้ไป
-
เพื่อ ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่แท้จริง 
-
เพื่อให้ลูกหลานเรา ๆ อาศัยเกิดและเติบโตจนเป็น ไทย ไม่ใช่ ทาส อย่างทุกวันนี้  ด้วยความสำนึกที่แน่วแน่ว่า เป็นหน้าที่และความรับผิดรับชอบที่ต้องทำจะหลีกเลี่ยงไม่ได้
 -
"การตอบแทนคุณแผ่นดิน  คือ การประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี ไม่ยอมก้มหัวให้ อำมาตย์ทรราช ให้ประชาชน เป็นสถาบันที่แข็งแรง เป็นองค์กรที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดี ของลูกหลานเรา 
-
พวกเราต้อง มุ่งกระทำแต่ความดีเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน" และถ้าคำนิยามนี้เป็นที่ยอมรับ ก็จะเห็นได้ว่าไม่ว่าผู้ใด ใคร หรือองค์กรใด ย่อมรวมอยู่ในคำนิยามนี้ทั้งสิ้น ฉะนั้น การตอบแทนคุณแผ่นดินจึงมีความหมายกว้างขวาง ลึกซึ้ง ยิ่งใหญ่ และครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างที่คน 
-
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ต่อประชาชน ทำให้ชาติบ้านเมืองของเรามีความเจริญ มีความก้าวหน้า มีความสงบสุข คนในชาติมีความรัก สามัคคี มีสุขภาพแข็งแรง  มีการศึกษาที่ดีพอจะประกอบอาชีพได้  มีความยั่งยืน และมีคนไม่ดีน้อยลง และไม่อณุญาติ ให้ อำมาตย์ทรราช มามีอำนาจ
-
และถ้าคนส่วนใหญ่ในชาติบ้านเมืองเข้าใจการตอบแทนคุณแผ่นดิน ดังนี้และปฏิบัติตามที่เข้าใจ  ได้ถูกต้องก็จะส่งผลให้บ้านเมืองมีความปรกติสุขเรียบร้อย  แนวทางในการปฏิบัติมี ๕ ประการ  ดังนี้
-
๑.การรู้รักสามัคคี การสร้างความสามัคคี ในมวลหมู่ผู้รัก ประชาธิปไตย  กระทำได้โดยการยึดถือเอาประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง ไม่เห็นแก่ประโยชน์ตนเอง เหนือประโยชน์ส่วนรวม การดำรงความสามัคคีในชาติ จึงเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่มากทุกคนพึงร่วมมือกันด้วยความสำนึกโดยตลอดเวลา
-
๒.การปกครองที่ดี ควรยึดหลัก "ซื่อสัตย์ ประหยัด และสุจริต" ซึ่งจะทำให้การบริหารองค์กรมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จ ไม่ใช่อบ่างทุกวันนี้ ที่เหล่า อำมาตย์ ทรราช คสช. กินเบี้ยประชุมกันวันละ 9 พันบาทต่อคน แต่กลับให้ คนอยากจน ต้องทนทุกข์ทรมานกับ ความไม่ดูแลเอาใจใส่ของฝ่ายปกครอง  เพราะเงินค่าเบี้ยประชุมวันละ 9 พันบาท และหรือแม้แต่เงินเดือนของพวก อำมาตย์ได้กินได้ใช้  ก็คือของของ แผ่นดิน มันเป็นเงินของ ประชาชน ทั้งสิ้น
-
๓.การประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดี  ก็ต้องมองถึง อนาคตลูกหลาน ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะอยู้กันอย่างไร ควรประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี  ต่อสู้เพื่อความเป็นคน ไม่ยอมก้มหัวให้ กับอำนาจ เผด็จการ ทรราช คสช.  เพื่อประโยชน์ของชาติ บ้านเมือง และประชาชน เพื่อลูกหลานของเรา
-
๔.การไม่เอาเปรียบ การดำเนินธุรกิจจะมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมได้นั้น ต้องดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคได้รับความเสมอภาคทั่วกัน ไม่ใช่ปล่อยให้ ทุนสามาร ไม่กี่ตระกลู ครอบงำทางธุรกิจ ไม่ยอมให้ ประชาชนลืมตาอ้าปาก เหมือนอย่างทุกวันนี้  
-
๕.การสนับสนุนคนไทยด้วยกัน การซื้อและการใช้ของไทยเป็นการเผยแพร่เกียรติและชื่อเสียงของชาติบ้านเมืองของเรา จงเข้าใจและรักประเทศของเรา เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินที่พึงกระทำอย่างยิ่ง และต้องยึดมั่น ไม่ใช้ของที่ผลิต โดยทุน สามาร เราต้องไม่ยอมใช้หรือซื้อของจากพวกทรราช เหล่านั้น 
-
 
เมื่อทราบแนวทางในการปฏิบัติตนแล้ว ข้าพเจ้าจึงอยากใคร่ขอเชิญชวนให้พี่น้องชาวไทยทุกคนร่วมใจกันตอบแทนคุณแผ่นดิน ที่แท้จริง  โดยการประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นวีรชนผู้กล้าหาญ ไม่ยอมก้มหัวให้กับความ อยุติธรรม ที่ ทรราช คสช. กระทำอยู่ในวันนี้ จง เป็นตัวอย่างที่ดี มุ่งกระทำแต่ความดี กอบกู้อิสระภาพ  เพื่อประโยชน์สุขของแผ่นดินของลูกหลานเรา
-
สุดท้ายข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเรา เสรีไทยทุกคน และคนไทยทุกคน จะพร้อมเพรียงกันตอบแทนคุณแผ่นดิน ต่อต้านและขับไล่ ทรราช คสช. ในทุกมิติ 
-
เสรีชน



"จะต้มคนไทยไปทำไม” โดย วัฒนา เมืองสุข

"จะต้มคนไทยไปทำไม"

คนที่ติดตามผลการพิจารณาบทเฉพาะกาลของ กรธ. คงคิดเหมือนผมว่า กรธ. จะมาต้มคนไทยไปเพื่ออะไร ถ้า กรธ. แถลงอย่างลูกผู้ชายว่า กรธ. ต้องทำตามข้อเสนอของ คสช. เพราะเป็นคนตั้งพวกเค้ามา ผมก็คงจะให้อภัยเพราะเผด็จการตั้งท่านท่านก็ย่อมรับใช้เผด็จการ แต่การที่ กรธ. มาแถลงโดยอ้างเหตุผลที่ต้องทำเพื่อ "ป้องกันไม่ให้ระบอบประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติล้มครืนลง" นั้น เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ โดยเฉพาะคำว่า "ประชาธิปไตย" แปลว่าประชาชนเป็นใหญ่หรืออำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน จึงไม่คู่ควรที่ กรธ. จะเอ่ยอ้างคำนี้ให้แปดเปื้อน

คสช. เสนอขอปรับปรุงบทเฉพาะกาลมา 3 เรื่อง เลยกรอบระยะเวลาที่ กรธ. กำหนดถึงเกือบหนึ่งเดือน แต่ กรธ. กลับรับไว้ดำเนินการให้ทั้งที่ผิดเงื่อนไข ส่วนผลการพิจารณาผมมีความเห็นดังนี้

(1) การที่ กรธ. ยืนยันวิธีการเลือก ส.ส. ให้เป็นไปตามเดิม ไม่ได้เป็นการคุ้มครองสิทธิประชาชนเพราะรูปแบบการเลือกตั้งที่ กรธ. กำหนดไว้แต่แรกนั้นก็คือการจำกัดสิทธิประชาชนอยู่แล้ว
(2) การให้มี ส.ว. จากการสรรหาจำนวน 250 คน คือการทำตามข้อเสนอทั้งหมด ส่วนที่อ้างว่า 50 คนขอให้มาจากสาขาวิชาชีพที่ กรธ. กำหนดก็ไม่ได้ทำให้มีผลเปลี่ยนแปลง เพราะสุดท้ายก็คือ ส.ว. มาจากการสรรหาทั้ง 250 คน สำหรับ 6 คนที่ยกเว้นให้เป็นข้าราชการประจำได้ก็คือ 6 ตำแหน่งที่ขอไว้ให้ ผบ. เหล่าทัพนั่นเอง ส่วนที่อ้างว่าไม่ได้ให้อำนาจ ส.ว. เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและลงมติ ก็ไม่ได้ทำให้ ส.ว. สรรหามีอำนาจน้อยลง เพราะยังมีอำนาจผลักดันกฎหมายการปฏิรูปที่ตีความได้กว้างขวางมาก มีสิทธิลงมติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อรวมกับอำนาจที่มีในร่างเดิมแล้วสามารถขัดขวางการทำงานของตัวแทนที่มาจากประชาชนได้ทุกเรื่อง
(3) ส่วนเงื่อนไขที่กำหนดว่า การเลือกนายกจากบุคคลที่ไม่เคยถูกพรรคการเมืองเสนอชื่อต้องใช้เสียง 2/3 ของรัฐสภาคือ 500 คน จึงจะเปิดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ได้ นั้น ฝ่าย คสช. มี ส.ว. สรรหาที่พร้อมจะยกมือทันที 250 คน เมื่อรวมกับพรรคอื่นๆ ที่พร้อมจะร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็มีเสียงเกิน 500 คน สามารถเรียกประชุมได้แล้ว ส่วนการยกมือเลือกนายกที่อยากมีอำนาจแต่ขี้ขลาดไม่กล้าแสดงตัว ใช้เสียงเพียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 251 เสียงเท่านั้น จึงแย่เสียยิ่งกว่าร่างของนายบวรศักดิ์ที่กำหนดให้ต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2/3 ของ ส.ส. ทั้งหมด

ผมไม่มีความเห็นกับข้อเสนอของ คสช. เพราะเป็นเผด็จการที่ยึดอำนาจมาจากประชาชน ก็ย่อมต้องทำทุกทางเพื่อปกป้องอำนาจของตน แต่สิ่งที่ กรธ. ดำเนินการมานั้นคือการเอาอำนาจของประชาชนไปมอบให้กับตัวแทนของเผด็จการ ส่วนผมเป็นนักการเมืองที่มาจากประชาชนมีหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์เพื่อสนองคุณข้าวแดงแกงร้อนของประชาชน จากนี้ไปจึงเหลือทางเดียวคือประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจจะต้องออกมาปกป้องสิทธิของตนเองด้วยการออกเสียงลงประชามติ ซึ่งทุกคนต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชน วันที่ 7 สิงหาคม 2559 เป็นวันออกเสียงลงประชามติ มาพิสูจน์กันว่าเผด็จการที่ใหนในโลกไม่มีทางใหญ่กว่าประชาชน "เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ"

วัฒนา เมืองสุข
23 มีนาคม 2559

THAILAND: Lawyers Society of Thailand urged to preserve its independence as a professional association

FOR IMMEDIATE RELEASE
AHRC-FST-005-2016
24 March 2016

A Statement from Human Rights Lawyer Association (HRLA) forwarded by the Asian Human Rights Commission

THAILAND: Lawyers Society of Thailand urged to preserve its independence as a professional association

The National Council for Peace and Order (NCPO) by Gen. Chalermchai Sitthisat, Deputy Chief of Staff of the NCPO, acting on behalf of the Chief of Staff, issued a most urgent letter dated 16 March 2016 addressed to the director in charge of the election of the President and board members of the Lawyers Council of Thailand (LCT) asking for the suspension of the election of the LCT's new President and board members, which is slated to take place on 24 April 2016. In the letter, it claims that since the election of the LCT's President and board members involves a large number of members and there would be election booths set up in each of the provinces based on the court jurisdictions, such practice might contravene the NCPO Announcement no.7/2557 (banning political gathering) which is applicable to all groups, in order to maintain public order of the nation during the transitional period similar to (the suspension of election of) local administration organizations per the NCPO Announcement no. 85/2557. In addition, the NCPO decreed that the board members of the LCT whose terms have already expired are to perform their duties provisionally while the new election is not forthcoming per Section 22 of the 1985 Lawyers Act.

The undersigning human rights organizations, lawyers, attorneys, and social activists have the following opinions to share regarding the incidence; 

1. Freedom of expression and public assembly is key for lawyers to perform their duties professionally. Article 24 of the UN Basic Principles on the Role of Lawyers provides that "Lawyers shall be entitled to form and join self-governing professional associations to represent their interests, promote their continuing education and training and protect their professional integrity. The executive body of the professional associations shall be elected by its members and shall exercise its functions without external interference." The principle ensures independence of a lawyer to perform their duties and is likewise significant for the upholding of rights and freedom of people in general and the rule of law. Therefore, that the NCPO instructed by letter for the suspension of the election of the LCT's board members is considered an interference of a professional association, it effectively bestowed on the state the power to control a professional association of lawyers making it a prerequisite for them to seek prior permission from the government before undertaking any initiatives. This will impede the ability of the lawyers to perform their duties independently and will similarly affect the right to justice process of people in general. 

2. The claim that the election of the LCT's President and board members involves a large number of members and that the setup of election booths in each of the provinces based on the court jurisdictions is a political gathering, and, therefore, is contrary to the NCPO Announcement no.7/2557, is an excessively board and arbitrary interpretation of the Announcement. In addition, since no legal ground has been given to support the order to have the election suspended, such an order is a breach to the 1985 Lawyers Act and is an infringement on the right to freedom of association by the LCT and the democratic rule which places an importance on self-determination and accountability to its members. It will also affect the competition and development of the profession to improve legal services. 

The undersigning human rights organizations, lawyers, attorneys, and social activists have the following demands to make; 

1. The NCPO must stop interfering with the independence of lawyers to perform their duties professionally by having the order rescinded immediately since lawyers are instrumental in enabling people to attain their legal rights.

2. The LCT must uphold its independence as a professional association by protecting itself against an unlawful interference and must proceed with the election according to the schedule. The suspension of the election as ordered by the National Council for Peace and Order (NCPO) is not only an unreasonable act, but also lacks any legal justification. Therefore, by executing an unlawful order, by suspending the procedure per the 1985 Lawyers Act and by allowing the existing board members to be acting board members indefinitely, the Lawyers Council of Thailand (LCT) can be held accountable for performing its duties in breach of the spirit of an association of lawyers and for its unlawful act. 

3. The Lawyers Council of Thailand (LCT) must stop acting in a manner that paves the way for the interference of illegitimate power and is obliged to act in brevity to stand for and uphold the independence of a professional association to ensure that lawyers can perform their professional duties fully, without intimidation or facing legal action. 

To ensure that the LCT can perform its duties to ensure that lawyers can perform their duties professionally and independently to promote people's right to justice process, all lawyer members and general public must advocate the organizing of the election of the LCT as previously announced.

With respect in people's rights and freedom and human dignity

1. Human Rights Lawyers Association (HRLA)
2. ENLAWTHAI Foundation
3. Cross Cultural Foundation (CrCF)
4. Union for Civil Liberties (UCL)
5. Mr. Pairoj Phonphet, Lawyer
6. Mr. Anucha Wuntachai, Human Rights Activist
7. Mr. Kritsada Khunnarong, Attorney
8. Mr.Panom Butakiew, Attorney
9. Mr. Anon Nampa, Attorney
10. Ms.Yaowalak Anupun, Attorney
11. Ms.Sor Rattamanee Polkla, Attorney
12. Mr. Chanwit Aramrit, Attorney
13. Ms.Koreeyor Manusare, Attorney
14. Ms.Pradittha Pariyakaewfah, Attorney
15. Ms.Paranda Pankaew, Attorney
16. Ms.Waraporn Utairungsee, Attorney
17. Ms.Koomklao Songsomboon, Attorney
18. Ms.Sasinun Thammanitinun, Attorney
19. Ms.Phattranit Yaodum, Attorney
20. Mr.Sutthikiew Thammadul, Attorney
21. Ms.Poonsuk Poonsukjarern, Attorney
22. Mr.Sarawut Pratumraj, Attorney 
23. Mr. Montree Achariyasakulchai , Attorney
24. Mr. Bandit Homket, Lawyer
25. Ms.Jirarat Mulsiri, Attorney
26. Ms.Natshatthayakron Gunthana, Attorney
27. Mrs. Amporn Sungthong, Attorney
28. Ms.La-ongdow Nonponkrang, Lawyer
29. Mr.Chulasak Kaewkan, Lawyer
30. Mr.Weerawat Oboh, Attorney
31. Ms.Somsakul Sreemeteekul, Attorney
32. Mr.Surachai Trongngam, Attorney
33. Mr.Amarin Saichan, Attorney
34. Ms.Darunee Paisarnpanichsakul, Lawyer
35. Mr.Laofang Bunditterdsakul, Attorney
36. Ms.Pornpen Khongkachonkiet, Human Rights Activist
37. Ms.Ubonwan Boonrattanasamai, Lawyer
38. Mr.Pairat Supakka, Attorney
39. Ms.Chansa Supanmuang, Attorney
40. Ms.Supunsa Marhem, Attorney
41. Ms.Montana Duangprapa, Attorney
42. Ms.Karnjana Akkrachard, Lawyer
43. Ms.Pakamas Kamcham, Human Rights Activist
44. Mr.Yingcheep Atchanont, Attorney
45. Ms.Pawinee Chumsri, Attorney
46. Mr. Thanarat Mangkud, Lawyer
47. Mr.Jatupat Bunpatraksar
48. Ms.Siwaporn Fordsoongnern
49. Ms.Sunida piyakunpanit, Lawyer
50. Mrs.Natthasiri Berkman, Attorney
51. Mr.Sumitchai Hathasarn, Attorney
52. Mr.Atiwat Sengkuy, Lawyer
53. Ms.Kunanya Songsamuth, Attorney
54. Ms.Issiyaporn intapun, Lawyer
55. Ms.Nuengruetai Kochasarn, Lawyer
56. Mr.Thitirat Soisuwun, Lawyer
57. Ms.Maseetoh Munloh, Lawyer
58. Mr.Sangchai Rattanasareewong, Attorney
59. Mr.Teerapun Punkiri, Attorney
60. Mr.Sophon Hnoorats, Attorney
61. Ms.Chalermsri Prasertsri, Lawyer
62. Ms.Natwadee Tengpanichsakul, Lawyer
63. Mr.Warut Boontharik, Attorney
64. Ms.Napaporn Songprang, Attorney
65. Mr.Ratsada Manuratsada, Attorney
66. Ms.Watcharasak Vijitnun, Lawyer
67. Ms.Sirikan Jarernsri, Lawyer
68. Ms.Atchara Suttisuntarin, Lawyer
69. Mr.Papob Siemharn, Lawyer
70. Ms.Puttinee Kopunta, Lawyer
71. Ms.Nijnirun Awapark, Lawyer
72. Ms.Siwanoot Soitong, Lawyer

……………..

The views shared in this statement do not necessarily reflect that of the AHRC.

# # #

The Asian Human Rights Commission (AHRC) works towards the radical rethinking and fundamental redesigning of justice institutions in order to protect and promote human rights in Asia. Established in 1984, the Hong Kong based organisation is a Laureate of the Right Livelihood Award, 2014.

Read this Forwarded Statement online

 



Visit our website with more features at www.humanrights.asia.



You can make a difference. Please support our work and make a donation here
.

-----------------------------

Asian Human Rights Commission

G/F

52 Princess Margaret Road

Ho Man Tin, Kowloon

Hongkong S.A.R.

Tel: +(852) 2698-6339 Fax: +(852) 2698-6367

Web: www.humanrights.asia

twitter/youtube/facebook: humanrightsasia



--

Giving what you find most difficult to give is true giving.

Wednesday, March 23, 2016

วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก

23 มี.ค.59
วิเคราะห์การแต่งตั้งโยกย้ายกลางปี ของกองทัพบก
ผ่านมาทางไลน์

เป็นที่สังเกตว่าในการแต่งตั้งโยกย้างคราวนี้สื่อต่างๆไม่นำมาวิเคราะห์คาดการณ์หรือลงข่าวสัมภาษณ์ผู้นำทหารคนใด ยกเว้น เดลินิวส์ที่ลงข่าวการแต่งตั้งที่มีชื่อรองแม่ทัพภาค1  สองในสามคนที่เลื่อนระดับสูงขึ้น รวมทั้ง การเลื่อนจากแม่ทัพน้อยเป็นแม่ทัพของภาค 2 ของ พล ท วิชัย แชจอหอ เด็กสร้างของ พล อ. เปรม แต่กลับให้ข้อมูลว่าเป็นนายทหารสายของ รมว กลาโหม  พล อ. ประวิตร เมื่อวันศุกร์ที่19 มี.ค. ก่อน เวลาถึง 10 วันตามที่ พล อ ประวิตรออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าโผจะออกสิ้นเดือนนี้ แต่เย็นวันจันทร์ถัดมา ประกาศราชกิจจานุเบกษา ก็ออกโผแต่งตั้งโยกย้ายออกมาหักหน้า พล อ ประวิตร ทันควัน (คอการเมือง ต้องไม่ลืมพลาด วันศุกร์ เพราะจะมีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นในวันนี้บ่อยครั้ง เช่นจับแล้วประกันไม่ทัน ต้องนอนคุกวันหยุด เป็นต้น)  

ในประกาศของราชกิจจานุเบกษา มีความแตกต่างจาก โผเดลินิวส์บ้าง กรณีของ พล ต กู้เกียรติ ศรีนาคา อดีตขุนพลจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ยืนอยู่ในตำแหน่งเดิม  แต่ที่ไม่ผิด จากโผ มี สอง ตำแหน่ง คือ พล ต  นัฐ. อินทเจริญ ทส. ของ พล อ ประวิตร จาก รอง มทภ 1 เป็นรองเสธฯทบ.   และ พล ท  วิชัย แชจอหอ จาก แม่ทัพน้อย ภ 2 เป็นมทภ 2  สองตำแหน่งนี้ เป็นการยกขึ้นเพื่อเตรียมเข้าสู่ ไลน์ของ 5 เสือ ทบ  ที่จะว่างลง 3 ตำแหน่ง โดย คู่ชิงผบ ทบ ในงวดหน้า คือ 2 ใน 5 เสือที่เหลืออยู่ คือ พล อ พิสิทธิ สิทธิสาร และ พล อ เฉลิมชัย สิทธิสาร์ท กับอีกหนึ่งตำแหน่งที่รออยู่ไม่ไปไหนคือ แม่ทัพภาค 1 คนปัจจะบันพล ท. เทพพงศ์ ทิพย์จันทร์ ครบ 5 เสือ ทบ 

กลับมาที่นายทหารในระนาบเดียวกันที่ไม่ได้ปรับเลื่อนชั้น เน้นไปคนที่มีบทบาทในช่วงการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างขั้วของ อำมาตย์กับไพร่ คือ กองทัพภาคที่ 1 ตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1  พล ท  อภิรัชต์ คงสมพงศ์  กับรองแม่ทัพภาคที่ 1  พล.ต กู้เกียรติ ศรีนาคา และ พล ต พงศ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ นายทหารเหล่านี้ล้วนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แต่กลับเสียอาวุโสในการแต่งตั้ง ให้กับเพื่อนร่วมรุ่น ตท20 ที่ด้อยบทบาทในทางสื่อ  เรียกว่ามีงานเรียกใช้ แต่ให้บำเน็จกับเด็กฝาก หากนับลำดับอาวุโสย่อมเป็นการกีดกันเส้นทางเจริญเติบโต นี่เป็นร่องรอยหนึ่งของกุศโลบายแบ่งให้แตกแล้วแยกปกครอง สลายขั้วอำนาจที่คาดว่าจะผงาดในอนาคต ซึ่งกลายเป็นวัฒนธรรมน้องเก่ง พี่ไม่"โปร" 

โผหักหน้า พล อ ประวิตร ชุดนี้มีคำตอบที่ให้ประเมินได้ว่า ทั้ง ธีรชัย ผบ ทบ กับ รมว กลาโหม ไม่มีส่วนจัดตั้ง เป็นการชงขึ้น ผ่าน ปลัดกระทรวง กลาโหมน้องชาย กับ พี่ชาย นรม.ส่งขึ้นไป แล้วประกาศใช้ (ในภาวะนี้เป็นที่ยอมรับกันว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้แต่ราชกิจจานุเบกษา ที่ไร้หลักฐานพระราชลัญจกรแต่งตั้ง แบบขลังๆ ที่เคยได้ชมกันในอดีต )  วิจารณ์แบบแลกหมัดคือการเอาคืนของ ประยุทธ กรณี การแต่งตั้ง ผบ ทบ ปี 2558 ที่ประยุทธ สมคบคิดกับ อุดมเดช ช่วยกันดันปรีชา แต่ถูกประวิตรทุบโต๊ะ ให้ ธีรชัย ที่ถูกดอง ให้รอมาหลายรอบ และที่สำคัญคือการเตะส่งอุดมเดชและทีมงานประเด็นอื้อฉาวโครงการอุทยานราชภักดิ์ของธีรชัยทันทีที่รับตำแหน่ง เรื่องนี้กระทบชิ่งไปถึง พี่น้องจันทร์โอชา ที่เล่นสองหน้า และสลายสายทหารของสุรยุทธ์ที่ถูกวางตัวแทรกเข้ามาอยู่ในแกนหลักของกองทัพคือ พอ  คชาชาติ บุญดี(หลานชายของ พล อ มงคล กมลบุตร ตท 1 บัดดี้ของ พล อสุรยุทธ์ จุลลานนท์)  และ พอ สุชาติ พรหมใหม่ เพื่อน ตท 27 ของ พอ คชาชาติ

สรุปการแต่งตั้งโยกย้ายในรอบนี้ ทำให้เกิดผลพลอยได้ไปเข้าทางเปรมที่มีเด็กเลี้ยงต้อยขึ้นขั้นอาวุโส เข้าป้ายรอตำแหน่ง 5 เสือไปก่อนตัวเต็งอย่าง อภิรัชต์ กู้เกียรติ และพงศ์สวัสดิ์ ที่มีชื่อชั้นเหนือกว่าในแวดวงการเมืองการทหาร ก่อให้เกิดรอยปริแตกทั้งฝ่ายบนและระดับสั่งการกองทัพ เห็นชัดขึ้นอีกระดับว่า ป ประยุทธ เหยียบเรือสองแคม เสนอผลงานเพื่อไปซบฟากของเปรมอีกคำรบหนึ่ง และคนประเภทนี้จะไม่มีที่ลงในวาระสุดท้ายเรียกกันว่า "หมาหัวเน่า"

"การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559"

 

 

Published on Mar 23, 2016
"การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559"


นาย ชุมพล โชคพงษ์อุดมชัย รองผู้ว่าการ (ปฎิบัติการ4) รักษาการแทนผู้ว่าการ การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมผู้บริหาร เปิดแถลงข่าวพร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เกี่ยวกับ "การรับมือสถานการณ์ภัยแล้งและการรณรงค์ปร­ะหยัดน้ำ ปี 2559" โดยมีประเด็นสำคัญ คือ 1.สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน 2.มาตรการรับมือภัยแล้ง ปี 2559 3.โครงการประชารัฐร่วมใจ คนไทยประหยัดน้ำ 4.โครงการเดินรณรงค์ประหยัดน้ำช่วยชาติ พร้อมกันทั่วประเทศ 74 จังหวัด ในวันศุกร์ ที่ 25 มีนาคม 2559 และ 5.รณรงค์สืบสานประเพณีสงกรานต์ เล่นน้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ณ ห้องโถง ชั้น 1 อาคาร 1 การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) สำนักงานใหญ่ หลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2559

ภาพ วัชรชัย คล้ายพงษ์ (Watcharachai Klaipong)

    Category
        News & Politics
    License
        Standard YouTube License  

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน (ฉบับแก้ไขปรับปรุง)

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน (ฉบับแก้ไขปรับปรุง)

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน

คำสาปแช่งไอ้เหี้ย สั่งฆ่า ประชาชน   

สว. ลากตั้ง ไม่ใช่พบกันครึ่งทาง แต่เป็นการไปพบที่บ้านทรราช คสช.

สปท.เปรียบร่างฯมีชัย ไม่ใช่พบกันครึ่งทาง แต่เป็นการไปพบที่บ้าน คสช.เลย
-

"สมพงษ์" ชี้ที่มา ส.ว.ไม่ครึ่งทาง เปรียบพบที่บ้าน คสช. ซัด "มีชัย" ดื้อรั้นคงบัตรเลือกตั้งใบเดียว
-

เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายสมพงษ์ สระกวี กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้พิจารณาข้อเสนอของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากเป็นการรักษาหน้าเพียงเล็กน้อย เพื่อแก้เกี้ยวมากกว่า การให้เลือก ส.ว.ทางอ้อม 50 คนนั้น ไม่ได้ตอบโจทย์อะไรเลย 
-

เพราะหลักใหญ่คือ ส.ว.สรรหา 200 คน ที่ไม่ยึดโยงประชาชน ยังท่องคาถาลงเรือแป๊ะต้องตามใจแป๊ะ ยอมผ่อนเพื่อรักษาหน้าตัวเอง หากให้เลือกตั้ง ส.ว.ครึ่งหนึ่งและแต่งตั้งครึ่งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ถึงจะเรียกครึ่งทางมากกว่า ไม่มีเลือกตั้งเลยไม่ใช่พบกันครึ่งทาง แต่พบกันที่บ้าน คสช.

-
ส่วนการให้ทั้งสองสภาประชุมร่วมกันโดยใช้มติ 2 ใน 3 ในการเปิดโหวตนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีรายชื่อได้นั้น นายสมพงษ์กล่าวว่า จะเอาสภาแต่งตั้งมารวมกับสภาเลือกตั้งไม่ได้ ถ้ายึดหลักการว่านายกรัฐมนตรีควรมาจากสภาผู้แทนราษฎร หากให้สภาผู้แทนราษฎรอย่างเดียวมีมติ 2 ใน 3 แล้วเอานายกฯคนนอกเข้ามายังไม่เป็นไร เพราะความรับผิดชอบจะตกอยู่กับผู้แทนราษฎรและพรรคการเมือง ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อประชาชน หากใช้สองสภารวมกันเปิดทางนายกฯ คนนอกถือว่าไม่ชอบธรรม คงถูกวิจารณ์มาก ห้ามไม่อยู่ และหมิ่นเหม่ต่อการทำประชามติ ส่วนการให้คงใช้บัตรเลือกตั้ง ส.ส.ใบเดียวนั้น แสดงถึงความดื้อรั้นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.เอง ที่ไม่ฟังเสียงประชาชน 
-
ทั้งๆ ที่ประเด็นดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์มากจากหลายฝ่ายและในที่สุดนายมีชัยก็จะถูกกล่าวหาว่าเขียนรัฐธรรมนูญรับใช้เผด็จการตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ซึ่งเป็นที่รู้กันทั้งบ้านเมืองว่านายมีชัยเป็นหนึ่งใน คสช. ดังนั้นเมื่อ คสช.ขอมาก็ปฏิบัติตามไม่ใช่เรื่องแปลก

Cr:  มติชนออนไลน์


"ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง ต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม"

ผมไปอ่าเจอบทความนี้.... จึงได้เห็นมุมมอง สหรัฐที่มองไทย.
-
จริงอยู่ อาจจะเป็นเรื่องเก่าและ อาจจะยาวไปหน่อย แต่ ทุกตัวอักษร มีคุณค่าควรแก่การศึกษา เพราะ ภาพเมื่อปี 2554 กับ 2559 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย กับ อนาคตของ ประชาธิปไตย ในไทย 

------------------------------------

"ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง ต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม" - ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (๒๕๕๔)
-

"ดิฉันพยายามเต็มที่เช่นกันในการแสดงให้ราชสำนักเห็น แต่ว่าต้องยอมรับ ประชาธิปไตยที่นี่ยังเปราะบาง เราต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วม"
-

ความเป็นไปได้เบื้องหน้า
-

พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภาผู้แทนราษฎร ๒๖๕ จาก ๕๐๐ เช่นนี้พรรคยังคงเป้นรัฐบาลต่อไปได้ แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวออกไปจากยิ่งลักษณ์ อีกทั้งการเป็นปราการเสริมความมั่นคงให้แก่รัฐบาล (อย่างน้อยในขณะนี้) (โดยที่เป็นเรื่องตลกร้าย) เกิดจากท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกประยุทธ์ จันทร์โอชา (ก่อนหน้านี้เป็นคู่ห้ำหั่นกันกับเสื้อแดงและทักษิณ) ประยุทธ์แสดงออกมาบ่อยครั้งว่ากองทัพ (สถาบันที่ยอมรับกันว่ามีผลงานดีในช่วงวิกฤต) ยังคงอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของรัฐบาล อีกทั้งเป็นข้อผูกมัดให้ทุกภาคส่วนให้การสนับสนุนรัฐบาลในยามวิกฤต และการปฏิวัติรัฐประหารเป็นไปไม่ได้ ยิ่งลักษณ์บอกฉันว่าเธอได้กระทำมากเสียยิ่งกว่าที่จำเป็นในการให้ความร่วมมือแก่ประยุทธ์ แล้วดูเหมือนประยุทธ์จะเข้าใจและพอใจกับความซื่อสัตย์มุ่งมั่นทำงานหนักของเธอ
-

ในวังก็เหมือนกัน มิได้แสดงอะไรให้เห็นว่าจะฉวยโอกาสระหว่างวิกฤตโค่นล้มรัฐบาล พระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราชานุญาติให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าสามครั้ง (ที่ประกาศทางการ) นับแต่เธอเข้ารับตำแหน่ง (ในโลกทึบแสงแห่งสถาบันกษัตริย์ไทย นี่เป็นกุญแจไขไปสู่การสร้างความคุ้นเคย) นอกจากนี้พระบรมวงศานุวงศ์ชั้นในได้เปิดให้นายกน ยิ่งลักษณ์เข้าเฝ้าช่วงไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา (ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ) รวมถึงสยามมกุฏราชกุมารและเจ้าฟ้าหญิงสองพระองค์ กระนั้นที่น่าเอ่ยถึงอยู่ที่การประกาศแต่งตั้งคนโปรดของราชสำนักสองท่าน ดร.สุเมธ และ ดร.วีรพงษ์ เข้าสู่คณะกรรมการฟื้นฟูและบริหารจัดการน้ำ สุเมธผู้ซึ่งถวายคำปรึกษาต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทมาช้านาน แล้วยังเป็นประธานมูลนิธิหนึ่งของพระราชวัง ไม่น่าที่จะสนองรับการแต่งตั้งหากพระเจ้าอยู่หัวฯ มิได้ทรงให้ความเห็นชอบ กรรมการอีกสองท่านในคณะก็เป็นผู้ใกล้ชิดเบื้องยุคลบาทเช่นกัน
-

ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่ความนิยมของยิ่งลักษณ์เริ่มจะตกลง พรรคเพื่อไทยของเธอยังทำคะแนนได้ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์คู่แข่ง ที่คนชอบน้อยกว่า และไม่อาจหาเพื่อนใหม่ได้จากการที่เอาวิกฤตมาใช้ฉกฉวยผลประโยชน์ทางการเมืองให้แก่ตนเอง "คุณไม่อาจที่จะเอาชนะบางสิ่งบางอย่างด้วยความว่างเปล่า" ดังที่มีคนว่าไว้ ถ้าไม่มีรัฐประหาร ยิ่งลักษณ์กับเพื่อไทยเท่านั้นที่เป็นเครื่องเล่นของชาติ
-

นั่นแหละ นี่คือประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าอย่าได้ละเลยคำนึงถึงรัฐประหารเป็นอันขาด แล้วที่ยิ่งลักษณ์พูดไว้ถูกต้องทีเดียว อย่างดีที่สุดประชาธิปไตยในประเทศไทยแค่เปราะบาง ในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ดูเหมือนดั่งจริงใจที่ว่าไม่สนใจการรัฐประหาร แต่ด้วยระดับดีกรีของการที่กองทัพสามารถเรียกกลับภาพลักษณ์คืนได้ระหว่างวิกฤต ในมาดวีรบุรุษขณะที่นักการเมืองดูเหมือนดั่งหมดประสิทธิภาพ อาจเป็นแนวโน้มอันตรายต่อประเทศไทยซึ่งติดเชื้อรัฐประหารฝังใน ยิ่งกว่านั้น ในขณะที่ในวังวางขลึม แถมมีท่าน่าฉงนว่าสนับสนุนรัฐบาลละหรือ ประมวลการสำรวจระยะสั้นๆ ในโลกของเว็บบล็อกและเฟชบุ๊ค ก็ปรากฏความจงเกลียดจงชัง และการต่อต้านไม่ย่นย่อต่อดาวพระเคราะห์ทักษิณ อย่างคึกคักในหมู่ผู้ลากมากดีของกรุงเทพฯ
-

ที่ซึ่งนำเราไปสู่ประเด็นพี่ชายใหญ่ ผู้ที่ยังคงได้รับความเคารพนบนอบอย่างสูงจากคณะรัฐมนตรีในแวดวงพรรคเพื่อไทย และท่ามกลางผู้สนับสนุนในกลุ่มเสื้อแดง เขาทำตัวสงบเสงี่ยมได้อย่างชาญฉลาดในช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาในขณะที่น้องสาวคนเล็กต่อสู้กับอุทกภัย แต่ว่าประเด็นเกี่ยวกับสถานะของเขา และความมุ่งมาดปรารถนาที่จะได้กลับประเทศไทยนั้นครอบคลุมไปเสียหมด ยิ่งลักษณ์บอกฉันว่าการเจรจากับในวังไม่หยุดยั้งของพี่ชายอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่า "ได้ผลดี" และแสดงให้เห็นผลลัพท์ในทางเยียวยาต่อการลี้ภัยห้าปีที่เต็มไปด้วยนาฏกรรมของเขา ไม่ว่าจะโดยผ่านทางการมีพระราชโองการอภัยโทษ หรือทางกฎหมายนิรโทษกรรมในรัฐสภาที่ราชสำนักให้ไฟเขียว อย่างดีที่สุดนี่เป็นจังหวะเต้นที่ต้องระวังยิ่งยวด การจัดการพลาดหรือคาดคะเนผิดโดยทักษิณจะก่อให้เกิดนาฏกรรมการเมืองแก่ยิ่งลักษณ์อีกครั้ง
-

เธอจำเป็นต้องเร่งมือดำเนินงานโครงการฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปราศจากการคอรัปชั่นหรือเรื่องอื้อฉาวใหญ่โต เพื่อที่จะทำให้พวกต่อต้านเงียบเสียงและผู้สนับสนุนเป็นปึกแผ่น ในขณะนี้ อุทกภัยได้กวาดซัดเอาความเชื่องมงายเรื่องเธอเป็น 'ตุ๊กตาจำลอง' ของพี่ชาย เนื่องเพราะเธอไม่มีประสบการณ์หรือสัญชาติญานอย่างพี่ชาย อย่างน้อยยังมาไม่ถึง ทว่าเธอมีในสิ่งที่พี่ชายไม่มี รวมถึงเสน่ห์และความสง่าและความจริงใจที่เห็นได้ กับการรำลึกอยู่เสมอที่จะโอบรับสถาบันกองทัพและราชสำนัก ด้วยการมีเทคโนแครทรุ่นใหม่ซึ่งทรงพลังอยู่เคียงข้าง เสียงข้างมากแน่นหนาในรัฐสภา ด้วยการวางมือของกองทัพและราชสำนักดังที่ปรากฏ (อย่างน้อยในขณะนี้) และไม่มีลูกเล่นอื่นๆ ออกมาอีก ยิ่งลักษณ์ผู้มุ่งมั่นมีเวลาที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้

-


ปากอย่าง... ใจอย่าง...

ปากบอกไม่ปฏิวัติ แม่งก็ปฏิวัติ
-
ปากบอกเพื่อขจัดนักการเมืองคอรัปชั่น แต่แม่งก็เห็นทหารมันคอรัปชั่นอยู่ทุกวัน
-
ปากบอกเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ แต่ทุกการกระทำคือการเพิ่มความเหลื่อมล้ำ
-
ปากบอกคืนความสุข แต่ความจริงคือการเพิ่มความทุกข์ให้กับประชาชน
-
ปากบอกสังคมนิยม แต่รูปธรรมคือเผด็จการตัวสุดท้ายในโลก
-
ปากบอกเศรษฐกิจดี แต่อัตราฆ่าตัวตายของไทยติดอันดับสามของโลก
-
ปากบอกจะนำพาประเทศชาติเป็นมหาอำนาจอาเซียน แต่ที่เห็นคือตอนนี้ไทยเป็นเพียงกระต่ายที่หลงระเริงและหลับไหล
-
ปากบอกนานาชาติยอมรับ แต่ไม่มีผู้นำชาติประชาธิปไตยเดินทางมาประเทศไทย
-
ปากบอกจะอยู่ไม่นาน แต่ดันออกโรดแมป 20 ปี
-
ปากบอกปกป้องสถาบันฯ แต่ผลที่ได้ คือสถาบันเสียหายป่นปี้
-
ปากบอกจริงใจ แต่ไม่กล้าสบตาผู้คน และด่ากราดคนอื่นได้ทุกวัน
-
แค่ไล่มาได้แค่นี้ ก็นึกไม่ออกแล้วครับ
ว่าคนที่หลับหูหลับตาเชียร์เผด็จการนั้น
พวกเขาทำไปได้ยังไง!

--------

Junya Yimprasert


Tuesday, March 22, 2016

ทรราช คสช. โว จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ จะปล่อยน้ำให้ หลังแม่น้ำโขงแห้ง

โดย เสรีชน

ทรราช คสช. โว จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ  จะปล่อยน้ำให้ หลังแม่น้ำโขงแห้ง

-
ผมเห็นว่าภัยแล้งมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีเวลาหารายละเอียด แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผม ต้องศึกษาหาความรู้ ก็คือว่า
-
จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ ของ ทรราช คสช. ได้สร้างความระยำ ไว้บนแผ่นนนี้  หากเรามอง ว่าความยุติธรรมของผู้ใช้น้ำ  ในแม่น้ำโขงทั้ง ลาว ไทย เขมร นับร้อยล้านชีวิต ได้นับผลกระทบเต็ม ๆ !!
-
เพราะพื้นที่ในจีน มีเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ถึง  6 เขื่อน และมี อีก 8 เขื่อนกำลังสร้าง นั้นจึงเป็นสาเหตุของการกักน้ำ เพื่อไว้ใช้ในประเทศ จีน 
-
จีนไม่ได้สนใจ ประชากรที่อยู่ปลายน้ำกว่า ร้อยล้านชีวิต แต่อย่างไร 
-
แล้วอย่างนี้ ก็สานมารถนั้งนึกและเห็น อนาคตของ ประเทศไทย ที่อยู่ปลายน้ำ ได้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นหาก จีน ไม่ปล่อยน้ำ 
-
และนึกได้ไกลกว่านั้นอีก หาก ทรราช คสช. ยังเลียตูดจีน เหมือนทุกวันนี้  ผมไม่ได้มี อคติกับ จีน
-
แต่อยากถ้าพี่น้องตรงๆ ว่า จีน ให้อะไรเรา บ้าง นอกจากความหลอกลวง การเอารัดเอาเปรียบในเชิง ธุรกิจ 
-
สมัยรุ่น พี่ คนเดือนตุลา เดินเข้าป่า ก็เพราะเชื่อว่า จีน จะให้การสนันสนุนสู้รบกับ เผด็จการสมัยนั้น จนพี่น้องของ ฝ่ายประชาธิปไตย ตายไป หลายพันในป่าใหญ่ 
-
สุดท้าย จีนก็หักหลัง จบมือกับ อำมาตย์ไทย จนเป็นที่มาของ 66 / 23 ของอีเฒ่านรก เปรม  และคำโกหก หลอกลวง ผู้รักความ ยุติธรรมสมัยนั้น ออกจากป่า มาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย  ด้วยคำหวานต่างๆ ทั้งเงินทุนและ ที่ดินที่ อำมาตย์ทรราช สมัยนั้นจะจัดสรร ให้
-
มาถึงวันนี้ พี่น้องเหล่านั้น ส่วนใหญ่แล้วยังไม่เคยได้เลย ตามคำหลอกลวงของ เปรม อีตุ๊ดเฒ่าแห่งบ้านสี่เสา เทเวศ
-
ผมนึกไม่ออกว่า รถไฟจีน ที่ได้สัญญากับ ทรราช คสช. จะออกหน้าตาเป็นอย่างไร ทั้งค่าก่อสร้างที่แพงกว่าใครในโลก อีกทั้งดอกเบี้ย มหาโหด ที่จีนโขกไว้ รวมถึงที่ดินข้างทาง ที่ต้องถูกบล๊อกไว้ในสัญญา การก่อสร้างรถไฟ อีก 99 ปี อีก........... เมื่อมองภาพรวม ก็เห็นอาณาจักร จีน อยู่ไม่ไกล ไม่ต้องไปรบให้แพ้ แค่แก้สัญญาให้จีนเช่าที่ 99 ปี ไทยก็เป็นทาสแล้ว
-

แต่ก่อน สมัย ทักษิญ
-
แม่น้ำโขง ถือว่าเป็นสายน้ำแห่งจิตวิญญาณที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนนับร้อยล้านชีวิต และมีความอุดมสมบูรณ์  จนถึงดครงการของทักษิญ ที่จะดึงแม่น้ำโขง และการเชื่อมต่อแม่น้ำหลายสายเข้า รวมกัน เพือ่การพัฒนาประเทศ 

-

หากมาวันนี้  วันที่ทรราช คสช. ครองเมืองครั้งที่ 2 หลังจากปี 2549  มานั้น รัฐบาลของ ประชาชน ไม่เคยทำอะไรได้ จะแก้ไข รัฐธรรมนูญ ก็ผิด 

รับจำนำข้าว ก็ผิด 
-

เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากกระสุน พระราชทานก็ผิด

-

ย้าข้าราชการประจำ ที่ทำตัวขวางการพัฒนาประเทศ อย่าง สถุน ถวิล เปลี่ยนสี  ก็ผิด 

-

จัดให้มีการเลือกตั้ง ก็ยังผิด 

ทุกอย่างที่รัฐบาลที่มาจาก ประชาชน  ทำอะไรก็ผิดหมด เพราะอะไร  เพราะ เราไม่ใช่ กปปส.  เราไม่ใช่ สลิ่ม  หรือเพราะเราไม่ใช่ ประชาชน ของประเทศนี้  คำตอบ มีอยู่ในใจของ พี่น้อง แล้วครับ

-
ว่าความแห้งเหือดของน้ำเข้าขั้นวิกฤต เป็นภัยแล้งที่กำลังคุกคามพื้นที่ประเทศจีนตอนใต้ ชนิดหนักหนาสาหัส ระดับร้ายแรงที่สุดในรอบ 70 ปีเลยทีเดียว และความแห้งเหือดนั้นก็จะอยู่ต่อไปอีกกีเดือน !!   กี่ปีไม่มีใครรู้ 

....................หากพี่น้องเรายังปล่อยให้เป็น เช่นนี้ อีกต่อไปหรือ 

-
อย่าไปอ้าง อากาศเปลี่ยน ฝนหลงฤดู หิมะ-ลูกเห็บ นัดกันถล่ม แผ่นดินไหวเขย่าโลก สึนามิคร่าชีวิต และล่าสุด ทราาช ประยุทธ์ ออกมาเห่า ให้เล่นน้ำ สงกรานต์..
[3/22/16, 1:03:04 PM] superredheart: อย่าไปอ้าง อากาศเปลี่ยน ฝนหลงฤดู หิมะ-ลูกเห็บ นัดกันถล่ม แผ่นดินไหวเขย่าโลก สึนามิคร่าชีวิต และล่าสุด ทราาช ประยุทธ์ ออกมาเห่า ให้เล่นน้ำ สงกรานต์ ได้แค่วันเดียวอีก ...... มันแปลว่าอะไร 
-
ทรราช คสช. พูดถึงขนาด ให้เยี่ยวแค่ ครั้งเดียว เพราะต้องช่วยกันประหยัดน้ำ  พูดถึงขนาด น้ำล้างรถ  และสั้งห้ามชาวนาใช้น้ำปลูกข้าว

-
ที่ผมกล่าวมา นั้นคือภัยแล้ง ที่กำลังคืบคลาน กดขี่ ข่มเหงประชาชนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า อย่างเงียบ ๆ ด้วยปากกระบอกปืน ของ ทรราช คสช.
-

แต่ ภัยที่ร้ายยิ่งกว่าภัยแล้ง  คือ  ความเห็นแก่ตัวของ อำมาตย์ ทรราช คสช.  มาวันนี้ จะจ่ายเงินให้ข้าราชการ แบบให้ฟรัเหมือนสมัย ฆาตกร อภิสิทธฺ์ ทำ  กว่า พันห้าร้อยล้านบาท  แถม  ๆ  จะเป็นเงินเดือนให้ ทหาร - ตำรวจ เพิ่มอีก 


หากยังทนได้กับการกดขี่ เหยียบหัวประชาชน ของ เหล่าทรราช ก็ทนกันไป ไม่ต้องลุกขึ้น มาเรียกร้อง หลอกครับ ไม่ต้อง คิดถึง อนาคตของลูกหลาน หลอกครับ  หลับให้สบาย กินให้อร่อย 

-
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ประชาชน ที่เขาทนไม่ได้กับการปฏิรูป โคตร พ่อ โคตรแม่ ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบห่วยแตก โกหก หลอกลวง และโกงกินชาติ อย่างไม่มีใครกล้าจะกล่าวถึง จัดการกันเอง  หรือครับ

-
พี่น้อง ประชาชน ต้องการเห็นความ อยุติธรรมที่มีอยู่เกลื่อนเมือง  เราจะอยู่อย่างนี้    ...........ก็แล้วแต่ พี่น้อง แล้วกัน ............  ครับ 


--- การต่อต้านทรราช คสช. เป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทย ทุกคน ครับ

-
เสรีชน

ทรราช คสช. โว จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ จะปล่อยน้ำให้ หลังแม่น้ำโขงแห้ง

ทรราช คสช. โว จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ  จะปล่อยน้ำให้ หลังแม่น้ำโขงแห้ง
-
ผมเห็นว่าภัยแล้งมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีเวลาหารายละเอียด แต่สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ผม ต้องศึกษาหาความรู้ ก็คือว่า
-
จีน ซึ่งเป็นผัวและพ่อ ของ ทรราช คสช. ได้สร้างความระยำ ไว้บนแผ่นนนี้  หากเรามอง ว่าความยุติธรรมของผู้ใช้น้ำ  ในแม่น้ำโขงทั้ง ลาว ไทย เขมร นับร้อยล้านชีวิต ได้นับผลกระทบเต็ม ๆ !!
-
เพราะพื้นที่ในจีน มีเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ถึง  6 เขื่อน และมี อีก 8 เขื่อนกำลังสร้าง นั้นจึงเป็นสาเหตุของการกักน้ำ เพื่อไว้ใช้ในประเทศ จีน 
-
จีนไม่ได้สนใจ ประชากรที่อยู่ปลายน้ำกว่า ร้อยล้านชีวิต แต่อย่างไร 
-
แล้วอย่างนี้ ก็สานมารถนั้งนึกและเห็น อนาคตของ ประเทศไทย ที่อยู่ปลายน้ำ ได้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นหาก จีน ไม่ปล่อยน้ำ 
-
และนึกได้ไกลกว่านั้นอีก หาก ทรราช คสช. ยังเลียตูดจีน เหมือนทุกวันนี้  ผมไม่ได้มี อคติกับ จีน
-
แต่อยากถ้าพี่น้องตรงๆ ว่า จีน ให้อะไรเรา บ้าง นอกจากความหลอกลวง การเอารัดเอาเปรียบในเชิง ธุรกิจ 
-
สมัยรุ่น พี่ คนเดือนตุลา เดินเข้าป่า ก็เพราะเชื่อว่า จีน จะให้การสนันสนุนสู้รบกับ เผด็จการสมัยนั้น จนพี่น้องของ ฝ่ายประชาธิปไตย ตายไป หลายพันในป่าใหญ่ 
-
สุดท้าย จีนก็หักหลัง จบมือกับ อำมาตย์ไทย จนเป็นที่มาของ 66 / 23 ของอีเฒ่านรก เปรม  และคำโกหก หลอกลวง ผู้รักความ ยุติธรรมสมัยนั้น ออกจากป่า มาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย  ด้วยคำหวานต่างๆ ทั้งเงินทุนและ ที่ดินที่ อำมาตย์ทรราช สมัยนั้นจะจัดสรร ให้
-
มาถึงวันนี้ พี่น้องเหล่านั้น ส่วนใหญ่แล้วยังไม่เคยได้เลย ตามคำหลอกลวงของ เปรม อีตุ๊ดเฒ่าแห่งบ้านสี่เสา เทเวศ
-
ผมนึกไม่ออกว่า รถไฟจีน ที่ได้สัญญากับ ทรราช คสช. จะออกหน้าตาเป็นอย่างไร ทั้งค่าก่อสร้างที่แพงกว่าใครในโลก อีกทั้งดอกเบี้ย มหาโหด ที่จีนโขกไว้ รวมถึงที่ดินข้างทาง ที่ต้องถูกบล๊อกไว้ในสัญญา การก่อสร้างรถไฟ อีก 99 ปี อีก........... เมื่อมองภาพรวม ก็เห็นอาณาจักร จีน อยู่ไม่ไกล ไม่ต้องไปรบให้แพ้ แค่แก้สัญญาให้จีนเช่าที่ 99 ปี ไทยก็เป็นทาสแล้ว
-

แต่ก่อน สมัย ทักษิญ
-
แม่น้ำโขง ถือว่าเป็นสายน้ำแห่งจิตวิญญาณที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนนับร้อยล้านชีวิต และมีความอุดมสมบูรณ์  จนถึงดครงการของทักษิญ ที่จะดึงแม่น้ำโขง และการเชื่อมต่อแม่น้ำหลายสายเข้า รวมกัน เพือ่การพัฒนาประเทศ 

-

หากมาวันนี้  วันที่ทรราช คสช. ครองเมืองครั้งที่ 2 หลังจากปี 2549  มานั้น รัฐบาลของ ประชาชน ไม่เคยทำอะไรได้ จะแก้ไข รัฐธรรมนูญ ก็ผิด 

รับจำนำข้าว ก็ผิด 
-

เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากกระสุน พระราชทานก็ผิด

-

ย้าข้าราชการประจำ ที่ทำตัวขวางการพัฒนาประเทศ อย่าง สถุน ถวิล เปลี่ยนสี  ก็ผิด 

-

จัดให้มีการเลือกตั้ง ก็ยังผิด 

ทุกอย่างที่รัฐบาลที่มาจาก ประชาชน  ทำอะไรก็ผิดหมด เพราะอะไร  เพราะ เราไม่ใช่ กปปส.  เราไม่ใช่ สลิ่ม  หรือเพราะเราไม่ใช่ ประชาชน ของประเทศนี้  คำตอบ มีอยู่ในใจของ พี่น้อง แล้วครับ

-
ว่าความแห้งเหือดของน้ำเข้าขั้นวิกฤต เป็นภัยแล้งที่กำลังคุกคามพื้นที่ประเทศจีนตอนใต้ ชนิดหนักหนาสาหัส ระดับร้ายแรงที่สุดในรอบ 70 ปีเลยทีเดียว และความแห้งเหือดนั้นก็จะอยู่ต่อไปอีกกีเดือน !!   กี่ปีไม่มีใครรู้ 

....................หากพี่น้องเรายังปล่อยให้เป็น เช่นนี้ อีกต่อไปหรือ 

-
อย่าไปอ้าง อากาศเปลี่ยน ฝนหลงฤดู หิมะ-ลูกเห็บ นัดกันถล่ม แผ่นดินไหวเขย่าโลก สึนามิคร่าชีวิต และล่าสุด ทราาช ประยุทธ์ ออกมาเห่า ให้เล่นน้ำ สงกรานต์ ได้แค่วันเดียวอีก ...... มันแปลว่าอะไร 
-
ทรราช คสช. พูดถึงขนาด ให้เยี่ยวแค่ ครั้งเดียว เพราะต้องช่วยกันประหยัดน้ำ  พูดถึงขนาด น้ำล้างรถ  และสั้งห้ามชาวนาใช้น้ำปลูกข้าว

-
ที่ผมกล่าวมา นั้นคือภัยแล้ง ที่กำลังคืบคลาน กดขี่ ข่มเหงประชาชนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า อย่างเงียบ ๆ ด้วยปากกระบอกปืน ของ ทรราช คสช.
-

แต่ ภัยที่ร้ายยิ่งกว่าภัยแล้ง  คือ  ความเห็นแก่ตัวของ อำมาตย์ ทรราช คสช.  มาวันนี้ จะจ่ายเงินให้ข้าราชการ แบบให้ฟรัเหมือนสมัย ฆาตกร อภิสิทธฺ์ ทำ  กว่า พันห้าร้อยล้านบาท  แถม  ๆ  จะเป็นเงินเดือนให้ ทหาร - ตำรวจ เพิ่มอีก 


หากยังทนได้กับการกดขี่ เหยียบหัวประชาชน ของ เหล่าทรราช ก็ทนกันไป ไม่ต้องลุกขึ้น มาเรียกร้อง หลอกครับ ไม่ต้อง คิดถึง อนาคตของลูกหลาน หลอกครับ  หลับให้สบาย กินให้อร่อย 

-
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ประชาชน ที่เขาทนไม่ได้กับการปฏิรูป โคตร พ่อ โคตรแม่ ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบบห่วยแตก โกหก หลอกลวง และโกงกินชาติ อย่างไม่มีใครกล้าจะกล่าวถึง จัดการกันเอง  หรือครับ

-
พี่น้อง ประชาชน ต้องการเห็นความ อยุติธรรมที่มีอยู่เกลื่อนเมือง  เราจะอยู่อย่างนี้    ...........ก็แล้วแต่ พี่น้อง แล้วกัน ............  ครับ 


--- การต่อต้านทรราช คสช. เป็นหน้าที่ของประชาชนชาวไทย ทุกคน ครับ

-
เสรีชน


***กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 33 "เรื่องวุ่น ๆ ของวังอลเวง"

***กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 33 "เรื่องวุ่น ของวังอลเวง"

https://youtu.be/LGWXMnYCc1s

หรือ

https://youtu.be/tURjBD-YQDM

หรือ

https://youtu.be/d76frBJwsls

หรือ

https://youtu.be/8eo6L417KVg

----------------------

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน

 

******************

ย้อนฟังตอนก่อนหน้า

 

กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม ตอน 32 ระบอบเปรม-ภูมิพล (ย้ำลัทธิอวยทั้งแผ่นดิน)

https://youtu.be/aA63kMAqR1s

หรือ

https://youtu.be/kBTqbOtOj0g

 

********
กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม
ตอน 31 การเกิดและการสร้าง "ระบอบภูมิพล-เปรม"

https://youtu.be/_Hysn1jdrEs

หรือ

https://youtu.be/x4z8fYxeAO8

หรือ

https://youtu.be/odSld8dB0T0
 

**********
กษัตริย์ไทยไม่เคยยิ้ม
ตอน 30 เราสู้กับใคร??? (ต่อ)

https://youtu.be/jOXd7i1eAaw

 

 

สนับสนุนแนวทางมดแดงล้มช้าง ของ คณะราษฎรเสรีไทย กับ ดร. เพียงดิน

ส่งข้อมูลลับผ่านช่องทางที่ปลอดภัยทางลิ้งค์ต่อไปนี้

http://tinyurl.com/o2rzao8

หรือที่นี่ http://tinyurl.com/pcqjppt

 

----------------------

สนับสนุนการเผยแพร่โดย ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และมหาวิทยาลัยประชาชน เพื่อสาธารณะประโยชน์ ในการสร้างจิตสำนึกทางประชาธิปไตย สันติวิธี และการเคารพหลักสิทธิมนุษยชน