Tuesday, December 1, 2015

New York Times รายงานพิเศษเศรษฐกิจไทยจมปลัก “อย่าหลงดีใจ"

New York Times รายงานพิเศษเศรษฐกิจไทยจมปลัก
“อย่าหลงดีใจ"

ว่านักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยกันมากไทยยังจมอยู่ในปลัก”เดอะนิวยอร์คไทม์ รายงานถึงภาวะเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ว่า“กำลังใกล้จะตายและรายได้ในครัวเรือนก็ ตกต่ำติดลบหนักที่สุดในเอเซีย”“อาชญากรรมเพิ่มขึ้น๖๐เปอร์เซ็นต์”“ไม่มีใคร อยากยิ้มอีกแล้วละ”พ่อค้าผลไม้ในตลาดหลังวัดอรุณฯตอบนักข่าวต่าง ประเทศ“ชีวิตทุกวันนี้เครียดมากไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนทำอะไรก็ไม่ได้ทำ อะไรให้ดีขึ้น”“ไทยเคยนำหน้าเพื่อนบ้านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งเสรีภาพ และความรุ่งเรือง”“แต่ทุกวันนี้ประเทศไทย มองดูเพื่อนบ้านด้วยความอิจฉาไม่อาจดูถูกเขาได้อีก”“สัญญานของประชาธิปไตย เบ่งบานในพม่าชัยชนะต่อทหารของอองซานซูจีที่กดขี่เธอมาหลายสิบปี
ส่วนเศรษฐกิจของลาวกัมพูชาและเวียตนามก็แข็งแกร่งดึงดูดการลงทุนของต่างชาติ ไปจากไทย”“ไทยถอยหลังเข้าคลองแต่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า”ความเห็นของคนขาย ก๋วยเตี๋ยวรถเข็น“วีระธีรพัฒน์นักจัดรายการวิทยุที่ได้รับความนิยมสูงคน หนึ่งบ่นว่าทางเดียวที่จะทำให้ชีวิตไม่หดหู่จนเกินไปต้องไปเสียจากประเทศนี้ ไปเที่ยวต่างประเทศสักพักผมไม่รู้ว่าจะทนไปได้นานแค่ไหนสงสัยต้องย้ายหนี เร็วๆนี้”แม้ว่าในด้านคนรวยจะไม่แห้งเหี่ยวไปทั้งหมดตามคอมมูนิตี้มอลล์และ ห้างหรูยังมีคนไปเดินเที่ยวซื้อหาและรับประทานอาหารกันแน่นแต่ฉายาไทยเคย เป็นเศรษฐกิจ‘เท็ปลอน’(ลื่นไปได้)คงเรียกอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้วแผงร้านค้า ปิดกันระนาวแม้แต่นายสมคิดจาตุรศรีพิทักษ์รัฐมนตรีคสช.กูรูเศรษฐกิจคนใหม่ก็ ยังเคยพูดไว้ในปาฐกถาแห่งหนึ่งว่า“ประชาชนรู้สึกเศร้าหมองเก็บกดเขาเปรียบ เปรยว่า"ไทยเป็นผู้ป่วยที่ต้องยืนสู้กับลมหนาว”“การยึดอำนาจเลื่อนไปไม่มี การสิ้นสุดและกองทัพก็เก่งแต่ตอบโต้เสียงวิพากษ์ใช้วิธีคุมตัวอาจารย์นักการ เมืองนักหนังสือพิมพ์และนักศึกษาขังในค่ายทหารและใช้วิธีเรียกว่าปรับ ทัศนคติ”การเสียชีวิตระหว่างถูกคุมขังของผู้ต้องหาหมิ่น
เมื่อเร็วๆนี้มีเสียงระบายความคับข้องใจตามโซเชียลมีเดียว่าขณะนี้ประเทศ ชาติปราศจากแนวนำทางการปกครองโดยเผด็จการทหารสร้างความหวาดกลัวให้สาธารณะ ข้อมูลของทางการตำรวจจำนวนอาชญากรรมลักขโมยและชิงทรัพย์ปีนี้มีถึง75,557 ครั้งเพิ่มขึ้น63เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้วจำนวนอาชญากรรมร้ายแรงเพิ่มขึ้น17 เปอร์เซ็นต์ปัญหาเศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องปวดหัวประจำวัน“ทุกๆวันเราต้องบ่น กันเรื่องการทำมาหากินฝืดเคือง”แม่ค้าขายส้มตำไก่ย่างคนหนึ่งเล่า“แย่ลงแย่ ลงแย่งทุกที”แม้กระทั่งนายหน้าเงินกู้นอกระบบที่คิดค่าดอกร้อยละ20ให้พ่อค้า แม่ค้าตามตลาดก็ยังบ่นนายเค.ซิงห์"เจ้าหนี้ปล่อยเงินกู้’ยอมรับว่าเศรษฐกิจ ตกต่ำแบบนี้หมายถึงคนกู้ไปแล้วไม่มีปัญญาใช้คืนในย่านเสื้อผ้าของกรุงเทพฯ ร้านรวงพากันปิดตัวเองลงเป็นแถวเจ้าของร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งระบายความ รู้สึกว่าลูกค้าเดี๋ยวนี้จ่ายยากคิดแล้วคิดอีกก่อนจะตกลงใจซื้อ“มันเหมือน กับว่าผู้คนแย่งกันแทะกระดูก”แม่ค้าเสื้อพูดถึงเศรษฐกิจ“เมื่อก่อนเป็นเนื้อ ติดกระดูกเดี๋ยวนี้กลายเป็นกระดูกติดเศษเนื้อ"แม่ค้าเสื้่อผ้าพูดถึงการปก ครอบงของเผด็จการทหาร“ฉันไม่ฝันที่จะมีรัฐบาลคนดีเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วละ ผู้คนต้องการแค่เอาตัวรอดไปวันๆ”

No comments:

Post a Comment